“ชัชชาติ” ยันนํ้าไม่ท่วมซํ้ารอยปี 54 แม้เจอพายุ 5 ลูก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำฝน พร้อมนำคณะสื่อมวลชนลงเรือสำรวจการเตรียมความพร้อมตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยออกตรวจชุมชมชนนอกแนวบริเวณชุมชนท่าวัง แนวเรียงกระสอบทรายท่าราชวรดิษฐ์ งานปรับปรุงแนวรั่วซึมบริเวณโรงเรียนราชินี เขตพระนคร งานเสริมผนังกั้นน้ำบริเวณกรมอู่ทหารเรือ เขตบางกอกใหญ่ การก่อสร้างเขื่อนแนวฟันหลอบริเวณข้างวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร แนวเรียงกระสอบทรายแนวฟันหลอบริเวณอู่เรือกัปตัน เขตบางกอกน้อย
โดย ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวว่าจากข้อกังวลของพี่น้องประชาชนหลายภาคส่วนเกี่ยวกับสถานการณ์นํ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่าจะท่วมซํ้ารอยปี 54 หรือไม่ เนื่องจากมีหลายจังหวัดเกิดนํ้าท่วมและโลกออนไลน์มีการลงคลิปนํ้าท่วมซึ่งมีการคลาดเคลื่อนไปบ้างตลอดจนพบมีนํ้าท่วมหลายจุดในกรุงเทพฯ อาทิ ถนนศรีนครินทร์ ถนนเฉลิมพระเกียรติ อุดมสุข อ่อนนุช
ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เนื่องจากกรุงเทพฯ มีปัญหาเรื่องนํ้าหลักๆ 3 นํ้า ได้แก่ นํ้าฝน นํ้าเหนือ และนํ้าหนุน ซึ่งนํ้าฝนคือฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพฯไม่เกี่ยวกับเรื่องนํ้าปี 54 แต่อย่างใด หากฝนตกหนักมากก็อาจส่งผลให้มีนํ้าท่วมขังบางจุดซึ่งต้องใช้เวลาเพื่อรอการระบาย
ส่วนนํ้าเหนือและนํ้าหนุนนั้น เชื่อว่าปัจจุบันมีการบริการจัดการที่ดีขึ้นมาก สําหรับภาพรวมไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างสามารถควบคุมได้และเป็นไปตามแผนปฏิบัติการซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถผ่านฤดูฝนปีนี้ไปได้ด้วยดี
ขณะที่การคาดการณ์ว่าช่วงเวลาน้ำหนุนสูงสุดที่จะวิกฤตคือวันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อเขื่อนป้องกันตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ผ่านมาจุดเสี่ยงน้ำท่วมตามบริเวณแนวป้องกัน ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขจุดฟันหลอแล้วเสร็จ 22 จุด คงเหลือแนวฟันหลอ 10 จุด พร้อมทั้งเตรียมกระสอบทราย 1,130,000ใบ ใช้ไปแล้ว 198,700 ใบ
ส่วนที่เหลือจะลงกระจายตามเขตเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามแนวต่างๆ โดยจะมีการใช้พลาสติกคลุมเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าตามแนวกระสอบ
ด้าน นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ และในฐานะรองโฆษก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระบุว่า การประเมินอัตราการไหลน้ำเข้าเขื่อนเจ้าพระยาสูงสุดคือ 2,500 ลบ.ม./วินาที และน้ำจะไหลเข้าน้อยตามลำดับ เพราะมีการผันน้ำไปฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซึ่งจะมีการปรับอัตราการไหลของน้ำให้เหลือ 2,300 ลบ.ม./วินาที ในช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับสถานการณ์น้ำในปี 2554 พบว่าปีนี้มีพายุ จำนวน 5 ลูกเช่นเดียวกับปี 2554 โดยปริมาณน้ำในปี 2554 มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่จังหวัดนครสวรรค์ 4,578 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ปี 2568 อยู่ที่ 2,748 ลบ.ม./วินาที
ส่วนการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในปี 2554 อยู่ที่ 3,162 ลบ.ม./วินาที และปี 2568 อยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที แม้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นก็จะมีการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในระดับเท่านี้ซึ่งจะส่งผลไม่ให้ปริมาณน้ำสูงเกินไปมากกว่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





