คนละครึ่ง “ลุงตู่-เสี่ยหนู” ความเหมือนที่แตกต่าง ประชาชนเฮ!

โครงการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาล”อนุทิน ชาญวีรกุล” นำกลับมาปัดฝุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการเป็นรัฐบาล 4 เดือนตาม MOA

 

เป็นผลงานอันลือลั่นที่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เคยทำ และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ซบเซาอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์

 

แม้ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้นจะพยายามโจมตีตั้งแต่วันแถลงนโยบายว่าเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “คนละครึ่ง” ก็เป็นความหวังของประชาชนผู้มีรายน้อย ในช่วงปลายปี ที่จะได้จับจ่ายใช้สอยคล่องตัวขึ้น

 

หลักการเดิมของคนละครึ่งสมัย “ลุงตู่” คือ รัฐจะร่วมจ่าย 50% ของราคาสินค้า ให้กับประชาชนในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และของใช้จำเป็น กลุ่มเป้าหมาย คือประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีบัตรประชาชน แต่ไม่รวม ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

ซึ่งได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือรูปแบบอื่นอยู่แล้ว ส่วนการใช้งานจะต้อง ลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และใช้จ่ายผ่านระบบ G-Wallet โดยรัฐจะโอนเงินสมทบให้อัตโนมัติในทุกการใช้จ่ายตามวงเงินที่กำหนด วันละไม่เกิน 150 บาท และตลอดระยะเวลาโครงการของยุค”ลุงตู่” 5 เฟส ใช้เงินงบประมาณรวมกว่า 3.4 แสนล้านบาท

 

มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 30 ล้านคน และร้านค้ากว่า 1.5 ล้านราย โดยร้านค้าขนาดเล็กที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็เข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลัง ส่วนผู้ใช้ จะไม่สามารถใช้ซื้อลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ได้

 

ส่วนคนละครึ่งของ”นายกฯหนู” มาพร้อมกับแนวคิดใหม่ที่น่าสนใจ และแตกต่างจากเดิมบ้าง เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น โดยเริ่มจากการปรับอัตราการสมทบ เพื่อจูงใจให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น แบ่งเป็น ประชาชนคนไทยทุกคนจะได้รับสิทธิ์ 50:50 เหมือนเดิม

 

แต่พิเศษสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี หรือผู้ที่เคยยื่นแบบแสดงรายการภาษี จะได้รับการสนับสนุนในอัตราที่สูงขึ้นเป็น 60:40 โดยไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่ต้องเสียภาษีเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ที่มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีด้วย

 

เบื้องต้น ใช้งบประมาณ 2.2 หมื่นล้าน และการใช้จ่ายก็จะผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เหมือนเดิม แต่เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 200 บาท ส่วนจะมีการขยายกลุ่มผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม หรือมีหลักเกณฑ์อะไรเพิ่มเติม รอลุ้นกันอีกครั้ง ในการเสนอหลักการและรายละเอียดเข้าครม.เพื่อมีมติในการเริ่มดำเนินการ

 

“นายกฯอนุทิน” มั่นใจว่า “คนละครึ่ง” จะเริ่มใช้ได้ ในวันที่ 29 ต.ค.อย่างแน่นอน โดยมีไทม์ไลน์เบื้องต้นชัดเจน คือ วันที่ 7 ต.ค.2568 โครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี , วันที่ 15 ต.ค.2568 เปิดลงทะเบียนร้านค้าจนสิ้นสุดโครงการ

 

โดยจะมีการเพิ่มกลุ่มร้านค้านิติบุคคลที่เป็น Micro SME ที่อยู่ในระบบ และมีรายได้ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อปี, วันที่ 20-26 ต.ค.2568 เปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไป และประชาชนที่เคยลงทะเบียนแล้ว สามารถกดรับสิทธิ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”, วันที่ 29 ต.ค.2568 เริ่มใช้จ่ายเงิน รัฐสมทบ 200 บาทต่อวัน

 

สำหรับวิธีลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน เข้าเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com,กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม และยืนยันหมายเลขโทรศัพท์, ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ยืนยันตัวตน, เข้าไปที่เมนู G-Wallet และกดยืนยันสิทธิในโครงการ ส่วนผู้ที่เคยลงทะเบียนมาแล้ว สามารถเปิดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง เข้าสู่ G-Wallet และกดยืนยันสิทธิ ได้ทันที…

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews