ดินผสมนํ้าทําถนนทรุด ขอ 14 วันคืนผิวจราจร
จากกรณีเหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาเป็นเหตุทําให้มีทรัพย์สินเสียหายจํานวนมาก แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ รฟม. และผู้แทนจากกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที – พีแอล ร่วมกันแถลงข่าวความคืบ
โดย นายกาจผจญ ผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากสภาพดินบริเวณนี้ ร่วมกับน้ำที่อยู่ใต้ดินทำให้สภาพของดินมีการเปลี่ยน เสถียรภาพเป็นลักษณะพิเศษจึงมีผลทําให้ถนนเกิดการทรุดตัวลงไปและทําให้ท่อประปาที่อยู่ลึกลงไป 3 เมตรเกิดการชํารุดประกอบกับนํ้าเสียปะปนอยู่ในดินจึงทําให้ดินยิ่งเสียเสถียรมากขึ้นจนกลายเป็นของเหลวไหลเข้าสู้โครงสร้างของสถานี
อย่างไรก็ตามในการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินของ รฟม. ที่ดําเนินการมานานกว่า 10 ปี ทางผู้ว่าฯ รฟม. ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเทคนิคและมาตรฐานทางวิชาการ โดยมีผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง และผู้รับสัมปทานที่เป็นมืออาชีพ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเป็นครั้งแรกและเป็นเหตุพิเศษ หลังจากนี้ทาง รฟม. จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งจากการหารือร่วมกับผู้รับจ้างและออกบบ ได้ข้อสรุปว่าจะดําเนินการแก้ปัญหาแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกคือการเร่งคืนพื้นผิวการจราจรภายใน 14 วัน โดยการอุดรูรั่วด้วยกระสอบทรายจำนวนประมาณ 50,000 ลูก ระหว่างอุโมงค์กับตัวสถานีจากนั้นผสมด้วยซีเมนต์ผสม เพื่อให้พื้นผิวกลับเข้ามาสู่ระดับปกติ และปรับพื้นผิวถนนแบบชั่วคราวก่อนเพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด
ระยะที่สองจะเป็นการซ่อมแซมอุโมงค์ให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งต้องลงรายละเอียดและวิเคราะห์กันอีกครั้งรวมถึงการซ่อมแซมอาคารต่างๆ อาทิ สน.สามเสน ก็อยู่ในระยะที่สองเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าจากเหตุที่เกิดขึ้นทําให้ประชาชนเกิดความกังวลในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า หลังจากนี้จะดําเนินการสแกนจุดก่อสร้างทั้งหมดของ รฟม. เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
ส่วนแผนรับมือฝนตกโดยปกติแล้วทาง รฟม. จะมีการประสานกับทางสํานักการระบายนํ้า กทม. แต่เหตุดังกล่าวเป็นสถานการณ์เป็นกรณีพิเศษที่มีหลุมลึกจึงจำเป็นต้องเร่งอุดไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้าไปในสถานีและวางแผนเพื่อเอาน้ำออก
ทั้งนี้ทาง รฟม. และ ผู้รับจ้าง ได้กล่าวขอโทษโรงพยาบาล ผู้ป่วย ผู้พักอาศัย และผู้สัญจรบนท้องถนน โดยยืนยันจะเร่งดําเนินการให้เร็วที่สุดพร้อมจะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ส่วนกรณีพบว่าบริเวณหน้าบริษัท บุญรอดฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุถนนทรุดตัวประมาณ 2 กิโลเมตร มีนํ้าซึมขึ้นมาบนพื้นผิวการจราจรและถนนมีลักษณะพองตัวขึ้นนั้น ทาง ผู้ว่าฯ รฟม. ระบุว่า ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นท่อปะปารั่ว ได้ทําการลดแรงดันนํ้าซึ่งจุดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงใดๆ
ขณะที่ทาง กทม. พร้อมด้วย การประปานครหลวง ได้ใช้เครื่องเรดาสแกนโพรง จุดดังกล่าวพบโพรงที่ท่อเก่าขนาด 10 ตารางเมตร เร่งดําเนินการซ่อมแซมภายในวันนี้ให้แล้วเสร็จ โดยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า จุดดังกล่าวไม่อันตรายและจะไม่เกิดการยุบตัวของถนนเหมือนเหตุการที่หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพราะเป็นคนละสาเหตุกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





