Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ถอดบทเรียน “ถนนทรุด” ในกทม.

จากเหตุการณ์ถนนสามเสนยุบตัวเป็นวงกว้าง แม้จะไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็สงผลต่อประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงรวมถึงผู้ที่ต้องสัญจรผ่านเส้นทางที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า ทั่วกรุงเทพ

ที่ต้องอยู่กับความรู้สึกหวาดระแวงว่า วันใดจะเป็นคราวเคราะห์ของตัวเอง ที่ต้องตกลงไปในหลุมหรือประสบอุบัติเหตุจากการก่อสร้างต่างๆ

 

เสียงร้องเรียนจากประชาชนในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ยังคงสะท้อนปัญหา “ถนนทรุด” ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเส้นทางที่อยู่ใกล้โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า อุโมงค์ หรืออาคารสูง ปัญหานี้ไม่เพียงสร้างความเดือดร้อนต่อการสัญจร แต่ยังกลายเป็นคำถามใหญ่เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัย ของการก่อสร้างในเมืองหลวง

 

นักวิชาการด้านวิศวกรรมธรณีและโครงสร้างชี้ว่า กรุงเทพตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อนหนาประมาณ 10-15 เมตร การรับน้ำหนักจากโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น การขุดเจาะเสาเข็มอาคารหรืออุโมงค์รถไฟฟ้า สามารถส่งผลกระทบต่อการทรุดตัวของดินโดยรอบได้

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริม ได้แก่ การสูบน้ำบาดาลในอดีต ที่ทำให้ดินชั้นลึกสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดการทรุดตัวสะสม // ระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ที่วางไม่สมบูรณ์ เช่น ท่อประปาแตกหรือรั่ว ส่งผลให้ดินไหลตัว // น้ำหนักจราจร จากรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สัญจรในพื้นที่เดิมซ้ำ ๆ ทั้งหมดนี้คือเหตุผลเชิงวิชาการที่ทำให้ปัญหาถนนทรุดในกรุงเทพมีความซับซ้อน และมักเกิดซ้ำในหลายพื้นที่

 

ประชาชนจำนวนมากสะท้อนว่า ปัญหาถนนทรุดไม่ได้เพียงสร้างหลุมบ่อที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แต่ยังทำให้รถติดหนักขึ้นจากการเบี่ยงเส้นทางชั่วคราว ที่สำคัญคือความไม่มั่นใจใน “ความปลอดภัย” ของโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน หลายเสียงเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐและผู้รับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยข้อมูลมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงรายงานผลตรวจสอบสภาพดินและโครงสร้างต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

 

อย่างเช่น นายพรพรหม โอกุชิ รองหัวหน้าฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาผู้บริโภค เรียกร้องให้รัฐเปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรได้รับ อาทิ มาตรฐานการก่อสร้าง ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงว่ามีการกำหนดมาตรฐานด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมอย่างไร

 

รวมไปถึงการระบุหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบและบังคับใช้มาตรฐานเหล่านี้อย่างชัดเจน // มาตรการการป้องกันดินเคลื่อนและการทรุดตัวของพื้นผิว และ ผลการตรวจสอบและการติดตามความปลอดภัย ต้องมีการเผยแพร่รายงานการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

 

ให้ประชาชนหรือองค์กรผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรายงานได้ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงที และเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ก่อสร้างมั่นใจว่าจะไม่ถูกละเลยผลกระทบ เช่น เสียงดัง ฝุ่นละออง การสั่นสะเทือน รวมไปถึงความเสี่ยงต่ออาคารบ้านเรือนโดยรอบ

 

นักวิชาการเสนอว่า แนวทางการแก้ไขต้องทำทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดย ใน ระยะสั้น ต้องมีระบบเฝ้าระวังและตรวจสอบสภาพถนนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมซ่อมแซมทันทีเมื่อพบการทรุดตัว ส่วนระยะยาว จำเป็นต้องใช้ เทคโนโลยีฐานรากและการปรับปรุงดิน ที่เหมาะสมกับสภาพกรุงเทพ เช่น การเสริมเสถียรภาพดินด้วยปูนซีเมนต์ผสม หรือการใช้เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ที่ลดการกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด

 

โดยเฉพาะการกำหนดให้ทุกโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ต้องทำการประเมินผลกระทบต่อดินและชุมชนโดยรอบ อย่างเป็นระบบ

ปัญหาถนนทรุดในกรุงเทพไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน การแก้ไขจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการก่อสร้าง และภาควิชาการ ที่สำคัญคือ การมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านการเข้าถึงข้อมูลและมาตรฐานความปลอดภัยอย่างโปร่งใส เพื่อให้เมืองหลวงแห่งนี้ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ต้องแลกกับความเสี่ยงบนท้องถนน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube