สีกาเยอรมนี กลับ ไทย 2 ต.ค.นี้ ให้ปากคำคดีเงินวัดนาป่าพง

วันนี้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินหน้าชี้แจงความคืบหน้าคดีที่สังคมจับตามอง คดีเงินวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี หลังเมื่อวานนี้ทนายความของวัดได้นำเอกสารชุดใหญ่เข้ามอบให้เจ้าหน้าที่

 

เอกสารเหล่านี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของวัดในช่วงปี 2556 – 2559 รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ตัวเลขที่สร้างแรงสะเทือนต่อสังคม เพราะเป็นเงินจากศรัทธาญาติโยม แต่ยังเป็นเพียงการชี้แจงที่มาที่ไป ไม่ใช่การเปิดข้อมูลละเอียด พนักงานสอบสวนจึงรับไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป

 

จุดเชื่อมโยงสำคัญอยู่ที่ “สีกาชาวเยอรมนี” ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินบริจาคระหว่างวัดและบัญชีส่วนตัว ซึ่งได้ประสานงานจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับบก.ปปป. และพล.ต.ต.จรูญเกียรติด้วยตนเองในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของคดี

 

แม้สำนวนหลักจะถูกส่งไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ – ป.ป.ช. แล้ว แต่พล.ต.ต.จรูญเกียรติย้ำชัดว่า ตำรวจบก.ปปป. ยังคงมีอำนาจสอบสวน สืบพยาน และตรวจสอบข้อมูลได้เต็มที่ โดยเฉพาะในประเด็นบัญชีวัดทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสที่ว่า การฟ้องร้องในไทยอาจเป็นกลยุทธ์เพิ่มน้ำหนักคดีที่เยอรมนี พล.ต.ต.จรูญเกียรติตอบตรงไปตรงมาว่า “เรื่องนี้มีทั้งจริงและเท็จ เป็นเรื่องที่คู่กรณีฟ้องกันไปมา แต่ตำรวจจะไม่เอาข้อกล่าวหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาตัดสินเอง ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานให้ครบถ้วน”

ประเด็นใหญ่ที่ตำรวจโฟกัส คือ “เงินวัดไปไหน” มีการโอนเข้าบัญชีใคร การใช้จ่ายถูกต้องหรือไม่ เจ้าอาวาสได้บริจาคมาจริงแต่เงินไม่เข้ามูลนิธิหรือเปล่า หรือในทางกลับกัน ฝ่ายสีกาเยอรมนีเองอาจเป็นผู้ทุจริตเงินหรือไม่ ทุกมุมต้องตรวจสอบอย่างเท่าเทียม ไม่มีการเลือกข้างภายในสัปดาห์นี้ชุดสืบสวนจะมีการประชุมใหญ่ เพื่อวางแผนเส้นทางการทำงานต่อ

 

หลังจากตำรวจส่งคำขอเอกสาร “สเตทเมนท์ธนาคาร” และเอกสารประกอบไปยังสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อดึงข้อมูลธุรกรรมที่แท้จริงมาใช้เป็นหลักฐาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติเน้นว่า การขอสเตทเมนท์นี้ไม่ใช่เพื่อตามล่าฝ่ายใด แต่เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะหลักฐานต้องมาจากแหล่งที่ตรวจสอบได้ ไม่ใช่จากการกล่าวอ้างลอย ๆ

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวย้ำ “ทุกขั้นตอนต้องทำตามกฎหมายและมีพยานหลักฐานรองรับ ถ้าพยานหลักฐานชัดเจน อาจมีการพิจารณาออกหมายจับผู้ที่มีอำนาจหรือเกี่ยวข้องกับบัญชีของวัดต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า หลังการแถลงข่าว ความสนใจของประชาชนยังคงอยู่ที่คำถามสำคัญ — ใครคือผู้ได้ประโยชน์จากเงินบริจาคจำนวนมหาศาลนี้ และจะสามารถนำความจริงออกมาเปิดเผยได้เมื่อใด

 

คดีวัดนาป่าพงจึงเป็นมากกว่าเรื่องเงิน เพราะสะท้อนปัญหาความเชื่อมั่นในสถาบันศาสนาและความโปร่งใสของผู้เกี่ยววัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานีข้องทั้งหมด การตรวจสอบครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เพื่อเอาผิด แต่เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้สังคมเห็นว่า “เงินศรัทธา” ต้องถูกใช้ตามเจตนารมณ์

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews