ส่อง 3 ก๊ก “น้ำเงิน-ส้ม-แดง” นับถอยหลัง 4 เดือนยุบสภา

 

 

รัฐบาลใหม่ของ “อนุทิน ชาญวีรกุล” เป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ ในการแก้ปัญหาเศรษกิจ ปากท้อง ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทยกัมพูชา ขณะเดียวกันในทางการเมือง ก็จับตาว่า MOA ระหว่างภูมิใจไทย กับ พรรคประชาขชน จะเดินหน้าเป็นไปตามโรดแม็ปมากน้อยเพียงใด

 

จะมีการขยับ จะมีการเลื่อนอะไรออกไปหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการบิดพลิ้ว การประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนก็จะเกิดขึ้น หลังจากแถลงนโยบายต่อสภา ภายใน 4 เดือน การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นคงหนีไม่พ้นการต่อสู้กันของ 3พรรคใหญ่ “น้ำเงิน-ส้ม-แดง”

 

“ค่ายน้ำเงิน” พรรคภูมิใจไทย หลังได้แรงหนุนจาก “พรรคส้ม” ส่ง”อนุทิน” เป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตามเงื่อนไข MOA ก็เนื้อหอมมากเป็นพิเศษ กลุ่มก๊วนการเมือง บ้านใหญ่ จังหวัดต่างๆ

 

โดยเฉพาะปักษ์ใต้ ทั้งจากประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ ทยอยเข้าร่วมชายคา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้น ทำให้”สีน้ำเงิน” ที่เดิมทีมีฐานใหญ่อยู่อีสานใต้ และภาคกลางตอนบน เข้มแข็งมากขึ้น จากพรรคที่มี สส. ประมาณ 70 คน อาจพุ่งไปอีกเท่าตัว

 

ประกอบกับมีกระสุนพร้อมสรรพ และกระแสก็พอตัว จากผลงานก่อนหน้านี้ และหากช่วงเป็นรัฐบาล 4 เดือน “อนุทิน”ทำงานได้ดี กระแสสีน้ำเงินก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ กุมความได้เปรียบในการลงสนามเลือกตั้งพอสมควร เป้าหมาย คงไม่ต่ำกว่า 120 ที่นั่ง

 

ถัดมา”สีส้ม” พรรคประชาชน ในฐานะแชมป์เก่า ผู้อกหัก แคนดิเดตนายกฯ ถูกกีดกัน พรรคเก่าถูกยุบ แต่ก็ยังเดินหน้าได้อย่างมั่นคง รักษากระแสได้เป็นอย่างดี เดินเกมการเมือง ในแบบที่ตัวเองต้องการ แม้จะเจ็บปวดบ้างในบางเรื่อง แถมถูกบางพรรคจะปรามาสว่าเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่ผลงานที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้ประชาชน เห็นแล้วว่า “พรรคส้ม” ไม่ได้อ่อนหัด อะไรขนาดนั้น

 

ส่วนสนามเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ “พรรคประชาชน” ก็เตรียมความพร้อมไว้เกือบหมดแล้ว ทั้งหารเฟ้นหาตัวผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งประกาศจะส่งครบทุกเขตทั่วประเทศ เตรียมแคนดิเดตนายกฯเอาไว้ถึง 3 คนตามรัฐธรรมนูญ

 

ป้องกันนิติสงครามเล่นงาน ไม่ยอมให้ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” เดินซ้ำรอย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เหมือนปี 66 ต้องมาลุ้นกันว่า รอบนี้ “สีส้ม”จะโตกกว่าเดิมหรือไม่ แต่ก็อาจต้องแจกระแสคำถามจากสังคมเรื่องมีทหารไว้ทำไม

 

ต่อกันที่ “สีแดง” พรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล 2 ปี แต่ นายกรัฐมนตรี 2 คน กลับโดนศาลรัฐธรรมนูญสอยตกเก้าอี้ทั้ง 2 คน จนอำนาจในมือหลุดลอย ผู้นำจิตวิญญาณ ต้องกลับเข้าเรือนจำ ส.ส.ในพรรคก็กลายเป็นงูเห่า ไปโหวตให้คู่แข่ง และเตรียมย้ายพรรค จนแกนนำต้องออกมายอมรับถึงเวลารีโนเวทบ้านใหม่ เพื่อกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่ปัญหาของ”ค่ายแดง” คือไม่รู้จะชูใครเป็นจุดขาย จะเอาใครมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ

 

รวมถึงผู้นำพรรคอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” ก็ไม่รู้จะโดนเล่นงานพ้นหัวหน้าพรรคอีกวันไหน ต้องเข็ญ”คุณแม่” มาปลอบขวัญ สส. นับว่า เป็นช่วงเวลาที่ระส่ำพอสมควร มีแต่ขาออก ยังไม่มีขาเข้า ต้องจับตา 4 เดือน ก่อนยุบสภา เพื่อไทย จะฟื้นกระแสได้ดีเพียงใด “ภูมิธรรม เวชยชัย” ยังคงเชื่อมั่น 10 ล้านเสียง จะไม่ทิ้งไปไหน เหมือนการเลือกตั้งซ่อมเชียงรายที่ผ่านมา

 

ภาพรวมการต่อสู้ของ 3 สี ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า สีส้ม เคยเจาะฐานเสียงของสีแดง แบบทะลุทะลวงมาแล้ว เมื่อปี 66 “กทม.-เหนือ-อีสานตอนบน” น่าจะสู้กันสนุกอีกครั้ง แต่คงไม่เทกระจาดเป็นสีส้มทั้งหมด เหมือนโซนตะวันออก ขณะ น้ำเงิน คุมโซนอีสานใต้ เก็บภาคกลาง และกวาดปักษ์ใต้ให้ได้มากที่สุด

 

รวมๆแล้ว 3 พรรค อาจมีได้ สส.ใกล้เคียงกัน ในระดับ 100-120 ที่นั่ง ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องวัดใจกันอีกครั้ง ว่าใครจะมาเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 เพราะพรรคอันดับ 3 คงพร้อมสนับสนุนทั้ง 2 ข้างอยู่แล้ว….

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews