ปมปัญหาวัดบางคลาน ไวยาวัจกร-กรรมการวัดซุกเงิน 30 ล้าน
วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน ตั้งอยู่ที่ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเรื่อง หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธามากกว่า 100 ปี วัดนี้เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่ มีรายได้จากการทำบุญ สร้างวัตถุมงคล และการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
จุดเริ่มต้นของปัญหา กว่า 10 ปีที่ผ่านมา วัดบางคลานเผชิญปัญหาความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการวัดกับชาวบ้านในพื้นที่ ประเด็นหลักเกี่ยวข้องกับ ความไม่โปร่งใสในการจัดการเงินวัดการจัดสร้างวัตถุมงคลและการระดมทุน ที่เงินจำนวนมาก ไม่เข้าวัดตามที่ประกาศ สิทธิ์การครอบครองและใช้พื้นที่ในวัด ซึ่งเป็นมรดกทางศาสนาชาวบ้านเริ่มร้องเรียนหลายครั้ง แต่ไม่ได้ข้อยุติ ปัญหาจึงสะสมจนกลายเป็นความขัดแย้งยืดเยื้อ
จากข้อมูลหลายฝ่าย พบว่า มีการสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่นแต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ารายได้เข้าสู่บัญชีวัดหรือไม่ มีการตั้งคำถามถึงการใช้ทรัพย์สินของวัด เช่น ที่ดินและทรัพย์สินถาวร มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐและคณะสงฆ์ ให้ตรวจสอบแต่เรื่องยังไม่คืบหน้า ประเด็นเหล่านี้สร้างแรงกดดันในสังคมให้หน่วยงานกลางลงมาแก้ไข
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว (บิ๊กเต่า) รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจสอบวัดบางคลาน หลังมีหลักฐานชี้ชัดว่าเงินจำนวนมากของวัดหายไป และยังพบข้อมูลการสร้างวัตถุมงคลที่เงินไม่เข้าสู่วัด การตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นการตรวจครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เพราะมีการประสานงานหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานด้านการเงิน
เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมเอกสารหลักฐานทางการเงินของวัดบางคลาน สอบปากคำคณะกรรมการวัดและผู้เกี่ยวข้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตรวจสอบวัดบางคลาน จ.พิจิตร จากการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง
รวมถึงตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ พบว่ามีการทุจริตเงินวัดรวม 30 ล้านบาทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังพบการค้าขายวัตถุมงคลที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของวัด โดยมีการนำเงินที่ได้ไปฝากในบัญชีบุคคลอื่นแทนบัญชีวัด
นอกจากนี้ตำรวจยังได้เรียกสอบไวยาวัจกรและกรรมการวัดหลายคน ซึ่งมีการนำเอกสารค่าใช้จ่าย และข้อมูลทางการเงินเก็บไว้ที่บ้านพักส่วนตัวมาตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่
สำหรับการแก้ปัญหาการบริหารวัด พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า มีการพูดคุยและประชุมร่วมกันเป็นคณะใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 18 ฝ่าย และตำรวจภูธรจังหวัด โดยมีมติแต่งตั้งรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอเก่า มาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อสร้างความเป็นกลางและความสมานฉันท์ระหว่างชาวบ้านกับพระสงฆ์ในการปกครองวัด
ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจสอบเส้นทางเงิน การสอบปากคำพยาน และการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อให้การสอบสวนเสร็จสิ้นและสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
