กต. ยันไทยไม่เปิดด่านชายแดนกัมพูชา ขอยึด 3 ข้อ GBC
กระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลประชุม GBC ระดับรัฐมนตรีกลาโหมของไทยและกัมพูชา โดยย้ำว่า ไทยยังไม่เปิดด่านชายแดน หากไม่บรรลุ 3 เงื่อนไขสำคัญ
ทั้งการถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์-สแกมเมอร์ ขณะสถานการณ์ความไม่สงบในเนปาลและการตาร์ ขอยืนยัน คนไทยทั้งหมดปลอดภัย ภายใต้การดูแลและการแจ้งเตือนจากสถานทูต
นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยยืนยันว่า
ความคืบหน้าในหลายเรื่องถือเป็นพัฒนาการสำคัญ แต่ยังไม่มีการเปิดด่านชายแดนจนกว่าจะบรรลุเงื่อนไขสำคัญ 3 ข้อ ดังนี้
1.ถอนอาวุธหนักและอาวุธยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนตามกรอบเวลา
2.เก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยตั้งคณะประสานงานร่วมภายใน 1 สัปดาห์ และเริ่มดำเนินการทันทีภายใน 1 เดือน
3.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์/สแกมเมอร์ ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งคณะทำงานภายใน 1 สัปดาห์ ฝ่ายไทยส่งข้อมูลพิกัดสแกมเมอร์กว่า 60 แห่งให้ฝ่ายกัมพูชาแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือประเด็นอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงและความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศบริเวณชายแดน 4 เรื่อง ได้แก่
1.บริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) หารือและ RBC กำหนดแนวทางการบริหารจัดการ
2.ลดวาทกรรมยั่วยุและข่าวปลอม เพื่อสร้างบรรยากาศเจรจาสันติวิธี
3.ผ่อนปรนการผ่านแดนบางประเภทและบางจุด สำหรับขนส่งสินค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการ
4.ด่านชายแดนจะยังไม่เปิด และการส่งสินค้าใด ๆ จะไม่เกิดขึ้น หาก 3 เงื่อนไขข้างต้นยังไม่บรรลุผล อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนกรณีทัวร์ไทยถล่มเพจสถานทูตญี่ปุ่น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า เหตุการณ์เกิดจากห่วงโซ่อุปทานข้ามพรมแดนและความคาดหวังการเปิดด่าน ซึ่งยังเป็นเพียงแนวคิด ทั้งนี้ ได้สื่อสารกับฝ่ายญี่ปุ่นแล้วว่า การเปิดด่าน ขอย้ำว่า ต้องรอให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ถอนอาวุธหนัก และปราบสแกมเมอร์ เสร็จเรียบร้อยก่อน
ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบในเนปาลและเหตุการณ์ในกาตาร์ และการคุ้มครองดูแลคนไทยของสถานเอกอัครราชทูตไทยว่า เหตุการณ์ไม่สงบในเนปาล จากการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่ม Gen Z ตั้งแต่เกิดเหตุ มีการประกาศเคอร์ฟิว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แม้สถานเอกอัครราชทูตฯ จะปิดทำการชั่วคราว ตั้งแต่ 9 กันยายน เป็นต้นมา แต่ยังเจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้าน ซึ่งมีการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมช่วยเหลือคนไทย ขณะนี้ มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในเนปาล ทั้งถาวรและชั่วคราว รวม 100 คน ทุกคนปลอดภัยดี มีการติดต่อเจ้าหน้าที่สม่ำเสมอ
สำหรับสถานการณ์ในกาตาร์ ที่เกิดเหตุความไม่สงบเมื่อ 9 กันยายนที่ผ่านมา นายนิกรเดช ระบุว่า หลังเกิดเหตุสถานทูตประกาศถึงคนไทยทันที ขณะนี้เหตุการณ์สงบแล้ว ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ 4,000 คน หากฉุกเฉิน ติดต่อสถานทูตได้ 24 ชม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





