“อนุทิน” นายกฯ รวยที่สุด ลำดับ 3 ของไทย
“นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล จาก “ทายาทธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง” เศรษฐีระดับพันล้าน ก่อนผันตัวเองสู่การเมือง ไต่เต้าจากที่ปรึกษารัฐมนตรี จนมาเป็น สส. เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแห่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศได้สำเร็จ
พร้อมกับขึ้นแท่นเป็น 1 ในนายกรัฐมนตรี ที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด คนหนึ่งของไทย โดย “อนุทิน” แจ้งทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.เมื่อ ก.ค. 2566
มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2,290,040 บาท มีทรัพย์สินรวม 4,372 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินฝาก 1,184,ล้านบาท, เงินลงทุน 721 ล้านบาท เงินให้กู้ยืม 159.9 ล้านบาท, ที่ดิน 13 แปลง 34.6 ล้านบาท,โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านพักอาศัย ตึกแถว 4 ชั้น 60.6 ล้านบาท ยานพาหนะ 749 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 1,251.5 ล้านบาท, ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 210 บาท
มีหนี้สินทั้งสิ้น 14,59 ล้านบาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 215,424 บาท ส่วน น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 39.4 ล้านบาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,411 ล้านบาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 14.5 ล้านบาท
สำหรับอันดับนายกฯไทยที่รำรวยที่สุด ยึดตามตัวเลขที่แสดงต่อ ปปช. ในการเข้ารับตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่ง อันดับ 1 นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ คนที่ 31 ซึ่งยื่นบัญชีทรัพทย์สิน ต่อ ปปช.กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567
มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส 13,993 ล้านบาท หนี้สิน 4,441 ล้านบาท และต่อมา นายทักษิณ พูดกับผู้สื่อข่าวยอมรับว่า ทรัพย์สินของ”แพทองธาร” มีมากกว่าตนเอง ถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่รวยที่สุดของประเทศไทย
อันดับที่ 2 “ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯคนที่ 23 ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล “ทักษิณ 2” เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2548 ระบุว่า มีทรัพย์สินรวม 12,571 ล้านบาท แยกเป็นทรัพย์สินของ “ทักษิณ” 506 ล้านบาท ทรัพย์สินคุณหญิงพจมาน ชินวัตร คู่สมรส
ในขณะนั้น 8,802 ล้านบาท และทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร บุตรสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในขณะนั้น 3,262,ล้านบาท แต่ล่าสุด นิตยสารฟอร์บส จัดอันดับมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งเมื่อต้นปี 2567
พบว่า “ทักษิณ” มีมูลค่าทรัพย์สิน 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 77,000 ล้านบาท มีบ้านที่ประเทศอังกฤษ 264 ล้านบาท วิลลาหรูที่นครดูไบ เครื่องบินส่วนตัว รถยนต์หรู และยังลงทุนในบริษัท Startup และลงทุนในเหมืองทอง เหมืองเพชร ในแอฟริกาใต้ด้วย
ส่วนอันดับ 3 ก็คือ “นายกฯหนู” ที่มี 4,411 กว่าล้าน ตามที่นำเสนอไปในข้างต้น
อันดับ 4 เป็นของ “บรรหาร ศิลปะอาชา” นายกฯ คนที่ 21 แจ้งทรัพย์สินรวมกับทรัพย์สินรวมคู่สมรส เมื่อครั้งพ้นตำแหน่ง ส.ส.ครั้งสุดท้าย ตอนที่พรรคชาติไทยถูกยุบ เมื่อปี 2551 มี 3,245 ล้านบาท โดยไม่มีหนี้สิน
และอันดับ 5 เป็นของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯคนที่ 30 แจ้ง ปปช. ตอนพ้นตำแหน่ง เมื่อ 14 ส.ค.2567 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส ราว 985 ล้านบาท หนี้สิน 754,255 บาท ลดลงประมาณ 33 ล้านบาท จากที่เคยแจ้งไว้ตอนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ มีอยู่ 1,020 ล้านบาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
