กต.แจงข้อดี MOU 43 “ภูมิธรรม” เมินทบทวนยกเลิก
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาวันนี้ กระทรวงการต่างประเทศ บรรยายสรุปข้อดีโดยละเอียดเกี่ยวกับ MOU 2543
ขณะ “ภูมิธรรม” ระบุ ไม่จำเป็นต้องทบทวน MOU 43-44 เพราะขณะนี้ไทยเป็นต่อ ในประเด็นทุ่นระเบิด-ลวดหนาม ถือว่ากำลังเป็นประโยชน์ต่อประเทศพร้อมย้ำ ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตยไทย
โดยวันนี้ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันบรรยายสรุป โดยละเอียดเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 (MOU43)
อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ย้ำว่า ไทยได้เปรียบจาก MOU43 เพราะเป็นกรอบและกลไกให้ทั้งสองฝ่ายสำรวจ-ปักปันเขตแดนอย่างเป็นระบบ ใช้เอกสารอ้างอิงตามสนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ค.ศ. 1904 และ 1907 รวมถึงเอกสารและแผนที่ที่จัดทำโดยคณะกรรมการปักปันเขตแดนในอดีต ก่อนนำมาสู่การทำงานของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา
ส่วนข้อดีของ MOU43 ต่อไทย คือ 1.ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ชายแดน เช่น ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้าง ขุดคูเลท หรือเสริมกำลังทหาร เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสำรวจ 2.ให้แก้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาเท่านั้น ห้ามดึงประเทศที่ 3 หรือองค์กรภายนอกมาเกี่ยวข้อง 3.กำหนดให้ร่วมกันกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อเปิดทางให้คณะสำรวจทำงานได้อย่างปลอดภัย 4.เป็นหลักประกันทางกฎหมาย ว่าทั้งสองฝ่ายต้องเจรจา ในกรอบที่กำหนด ไม่สามารถตีความตามใจฝ่ายเดียว
อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เตือนว่า หากมีการยกเลิก MOU43 ไทยก็ยังไม่สามารถหลีกหนีเอกสารแม่บทเดิม คือ สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ค.ศ. 1904 และ 1907 รวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่เป็นต้นเหตุข้อพิพาท “การยกเลิก MOU43 จะเท่ากับเริ่มนับหนึ่งใหม่
ขณะเดียวกัน วันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ของกองทัพภาคที่ 2 ในวันที่ 27 ส.ค. ว่า เป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน ประเด็นหลักคือ “เรื่องเส้นเขตแดน” และการหาข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด แต่ยอมรับว่า หนักใจที่ฝ่ายกัมพูชา
มักแถลงไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ ทั้งนี้ ไทยได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้ครบถ้วน พร้อมย้ำชัดว่า “ไทยยืนหยัดในผลประโยชน์ของชาติ ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย”
นายภูมิธรรม ย้ำชัดว่า ไม่จำเป็นต้องทบทวน MOU 43,44 ในเวลานี้ เพราะปัจจุบัน ไทยอยู่ในสถานะ “ได้เปรียบ” และมีความชอบธรรมจากกรณีทุ่นระเบิดและลวดหนาม ซึ่งกำลังเป็นประโยชน์ต่อประเทศ หากหยิบยกหลายประเด็นขึ้นมาพร้อมกัน จะยิ่งทำให้การเจรจาซับซ้อนและยากต่อความเข้าใจ
นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า การแก้ปัญหาชายแดนไม่อาจสำเร็จได้ในทันที แต่ทุกฝ่ายต้องเดินหน้าโดยสันติวิธี และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





