Home
|
Video

จาก “แม่ทัพกุ้ง” ถึงหมอ “สุภัทร” Vs การเมืองเสื่อม?

 

หน้างาน ยังคามือแก้ไม่ได้แถมถูกลดเครดิตกับ 2 วิกฤติ ทั้ง “ศึกเขมร”และ “ศึกเศรษฐกิจ” ที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายฐานความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือของ “รัฐบาลอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร เหลือ4% แถมกำลังเข้า “โซนอันตราย”จาก “คดีคลิปเสียงฮุนเซน”ที่นัดตัดสิน 29ส.ค.

 

เช่นเดียวกับ “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้พ่อ ที่มี 2 คดี ม.112 และ “คนชั้น14”จ่อตัดสินเดือนถัดไป พลันก็มามีเรื่องกับ “ชมรมแพทย์ชนบท” หนึ่งในประชาคมแพทย์ ที่ก่อนหน้านี้”หมอทั้งแผ่นดิน”ก็เพิ่งจะมีเรื่องกับ “ฝ่ายการเมือง”รัฐบาลเพื่อไทย ที่เพิ่งส่ง”สมศักดิ์ เทพสุทิน”มาคุมกระทรวงสาธารณสุข จากปม “คนชั้น14”จนทำให้ “คดีพลิก”จากสังคม ไม่รู้จะทำอย่างไรได้กับ “คนชั้น14”กลายเป็นมีข้อมูลหลักฐานดันไปสู่”ศาลฎีกานักการเมือง” ได้และกำลังจะตัดสินในที่สุด

 

เป็น “ชมรมแพทย์ชนบท”ที่ “รัฐบาลเพื่อไทย”โดยกระทรวงธารณสุข ที่กำลัง“เช็คบิล” กับ “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ”ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่ “คนไทย”มี “ภาพจำ”ครั้งสถานการณ์วิกฤติ “โควิด19”ระบาดทั่วโลก และลามเข้าไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯที่ระบาดหนัก “นพ.สุภัทร”ยกทัพหมอชนบท เข้ามาบุกกรุงเทพฯถึง 3 รอบ
เพื่อช่วยผู้คนที่เจ็บตายเพราะไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุข ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลขณะนั้น

 

จนช่วงนั้นเกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองยุครัฐบาลลุงตู่ ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล”เป็นรมว.สาธารณสุข จนมีการสั่งย้าย “หมอสุภัทร”ที่หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลมาเรื่องดูเหมือนจะเงียบไป กระทั่งเมื่อวาน สังคมเพิ่งรู้ว่า “หมอสุภัทร”กำลังถูกปมการ “บุกกรุงเทพ”ช่วยโควิทครั้งนั้นกลายเป็นสาเหตุ ให้เขาถูกตั้งกรรมการสอบและจะลงโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการก่อนเกษียณ

 

โดย “นพ.สุภัทร”ออกมาโพสFBเมื่อวาน(16ส.ค.)ว่ากำลังถูกให้ออกจากราชการ โดยอ้างว่า มาจากการตั้งธงของฝ่ายการเมืองผ่านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา ถูก สธ.ตั้งกรรมการสอบวินัยกว่า 10 เรื่อง แต่ได้แค่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ จนกระทั่งมีการสั่งย้ายโดยมิชอบ ให้พ้นจากโรงพยาบาลจะนะ ให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อย และส่งทีมชุดใหญ่เข้ามาตรวจสอบภายในเพื่อขุดหาความผิด

 

พร้อมทั้งให้ข่าวว่าตนทุจริต และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เรื่องการจัดซื้อ ATK แพทย์ชนบทบุกกรุง ที่แพทย์ชนบทบุกกรุง 3 รอบ ในช่วงก.ค.-ส.ค.64 โดย ความยากที่สุดคือ เราจะต้องจัดซื้อ ATK มาใช้เอง สธ.ไม่มีให้ ในขณะนั้น มาตรฐาน สธ.ยังใช้ RT-PCR แกนนำหลายโรงพยาบาลแบ่งหน้าที่ช่วยกันจัดซื้อ ATK ตนได้จัดซื้อในนามโรงพยาบาลจะนะ จัดซื้อตามสถานการณ์หน้างานที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า คนมารับการตรวจจะมากหรือน้อย เราจะทำไหวที่จำนวนเท่าไหร่

 

แต่จุดยืนตอนนั้นคือ ทุกคนที่มารอต้องได้ตรวจ เราตรวจไปทั้งหมด 192,905 คน พบผู้ติดเชื้อและได้จ่ายยาไปมาก ถึง 22,451 คน ซึ่งการบุกกรุง 3 ครั้ง โรงพยาบาลจะนะ ทำการจัดซื้อ ATK ไป 5 ครั้ง จึงเปิดช่องให้ผมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า จัดซื้อผิดระเบียบ แบ่งซื้อแบ่งจ้าง แต่โรงพยาบาลอื่น ที่จัดซื้อในคราวนั้นไม่ถูกสอบสวนนะ

 

เรียกว่าประเด็น “หมอสุภัทร”ประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่เป็นที่รับรู้จากสังคมถึงการเป็น “กองทัพหมอ” ที่อยู่ “หน้างาน”ในสถานการณ์โควิดบุกไทยมาตลอด ถูกจับตา ว่าจะบานปลายส่งผลกระทบ “ฝ่ายการเมือง” รัฐบาลเพื่อไทย ในจังหวะที่กำลังเจอ “ศึกรอบด้าน”และอยู่ในภาวะ “นับถอยหลังทางการเมือง” โดยเฉพาะในเรื่องความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศในสถานการณ์วิกฤติ

 

และการจัดการหน้างาน ที่ขัดแย้งกับฝ่ายปฎิบัติในระบบราชการ ยิ่งมีการย้อนภาพตอนช่วงที่มีข่าว “การย้ายแม่ทัพภาค2” ”พล.ท.บุญสิน พาดกลาง”ที่จะเกษียณอายุราชการปีนี้เหมือนกันเพราะบทบาทที่โดดเด่นและไม่ฟังรัฐบาล ช่วงที่ ศึกเขมร กำลังเข้มข้นตอนแรก ที่ต่อมากลายเป็นภาพชัดว่า “กองทัพ”กลับได้รับความเชื่อถือ และ “พล.ท.บุญสิน”แม่ทัพกุ้ง กลายเป็น “ขวัญใจคนไทย”รวมถึงเด็กๆ ที่สวนทางกับภาพรัฐบาล และฝ่ายการเมือง ที่ได้รับความนิยมลดลง

 

ที่สถานการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดกระแสไม่เชื่อมั่น ไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล และ ฝ่ายการเมือง อย่างที่ ผลสำรวจโพลนิด้าล่าสุดวันนี้(17ส.ค.)เรื่อง“มีความหวังหรือหมดหวังกับพรรคการเมือง” ระบุถึงถามความพอใจของประชาชนต่อการทำงานของ สส. ปัจจุบัน ในเขตเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.24 ระบุว่า ไม่พอใจเลย สำหรับการเลือก สส. ปัจจุบัน ในเขตเลือกตั้งให้กลับเข้าสู่ตำแหน่ง หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.69 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 25.57 ระบุว่า ไม่แน่ใจ

 

ขณะที่ ความหวังของประชาชนต่อพรรคการเมืองที่มี สส. อยู่ในสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบัน (ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน) ในการแก้ปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.91 ระบุว่า หมดหวังแล้ว รองลงมา ร้อยละ 34.19 ระบุว่า ค่อนข้างหมดหวัง.

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube