ลุ้นระทึก! ชี้ชะตาคดี “ทักษิณ-แพทองธาร” เดิมพันอนาคตรัฐบาล
เมื่อสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง ประกอบกับ สภาผู้แทนราษฏร ผ่านร่าง พรบ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 3 แล้ว น่าจะทำให้รัฐบาลหายใจหายคอโล่งขึ้น ในการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย แก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน
แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่เลย สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ ยังมีข่าวลือ “นายกฯอิ๊งค์” จะลาออก หลังงบฯ69 ผ่านสภา ก่อนมีการตัดสินคดีคลิปเสียง”ฮุนเซน” แม้ตัวพ่ออย่าง”ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ จะช่วยปฏิเสธ คนในพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาพูดว่าไม่เป็นความจริง พรรคไม่ได้ เตรียมแผนสำรอง แต่ตัว”แพทองธาร” ยังปิดวาจา ไม่เอื้อนเอ๋ยอะไรออกมา ความคลุมเครือจึงยังคงมีอยู่
โดยคดีคลิปเสียง”ฮุนเซน” ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน “นายกฯอิ๊งค์” และพยาน 1 ปาก คือ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาฯสมช. ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันเกิดของ “แพทองธาร”พอดี และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะออกมา จึงเป็นปัจจัย ที่สำคัญ ต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นอย่างมาก “แพทองธาร” จะได้ไปต่อ หรือ จะซ้ำรอย “เศรษฐา” ในข้อฝ่าผิดจริยธรรมร้ายแรง
คือเดิมพันครั้งสำคัญของ “แพทองธาร” เพราะหากไม่ได้ไปต่อ คณะรัฐมนตรีทุกคนจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ต้องใช้กลไกของสภา ในการโหวต นายกรัฐมนตรีคนใหม่อีกครั้ง จะเป็น”ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดทคนสุดท้ายของเพื่อไทย หรือใครก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่หากมีการลาออกก่อน คดีก็จะถูกจำหน่ายออกไปจากศาลทันที ไม่ต้องมีการตัดสินให้มีมลทินติดตัว รวมถึงยังจะมีโอกาสกลับมาได้อีก
ยิ่งไปกว่านั้น วันที่ 22 ส.ค.รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ โดยมี” ทักษิณ” เป็นผู้มากบารมีคอย บงการขับเคลื่อนอยู่วงนอก อาจต้องสั่นคลอนไปก่อนก็ได้เช่นกัน เพราะศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดีมาตรา 112 ของ”ทักษิณ” จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 ซึ่งอัยการสูงสุด สั่งฟ้องเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 และศาลใช้เวลาในการไต่สวน สืบพยานในคดีนี้มา 1 ปีเศษ
โดยที่ “ทักษิณ” เบิกความด้วยตัวเองเมื่อ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษา ซึ่งผลที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นบวก หรือลบ รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ก็จะได้รับผลกระทบ หรืออานิสงค์ โดยตรงแน่นอน
นอกจากนี้ “ทักษิณ” ยังมีอีก 1 คดี คือ “ป่วยทิพย์รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ไต่สวนพยานครบถ้วนทุกปากแล้ว ว่ากระบวนการส่งตัวไป รพ.ตำรวจ การรักษาตัว ถือเป็นการควคุม คุมขังนักโทษ ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ จะต้องกลับเข้าเรือนจำใหม่หรือไม่นั้น ศาลนัดอ่านคำวินิจในวันที่ 9 ก.ย.ที่จะถึงนี้
ซึ่งผลคำตัดสินทั้ง 3 คดี ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะออกมาเป็นคุณ หรือ เป็นโทษ โดยเฉพาะหากเป็นโทษกับ “ทักษิณ” จะมีการกระทบชิ่งไปหารัฐมนตรียุติธรรม หรือนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยหรือไม่
ดังนั้นชะตากรรมของ 2 พ่อลูก “ทักษิณ – แพทองธาร” ในการต่อสู้กับนิติสงคราม 3 คดี ตั้งช่วงปลายเดือน สิงหาคมนี้ ไปจนถึง ต้นเดือนกันยายน จึงเป็นเดิมพันใหญ่ของ “ตระกูลชินวัตร” และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นคดี”คุณพ่อ” หรือตัว “นายกฯ” ล้วนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และกระดานหมดการเมืองในอนาคตอย่างแน่นอน …
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





