จ่อปิด ศบ.ทก. พบเขมร เสริมที่มั่นชายแดน – ยังรับมือได้
เตรียมปิดศูนย์ ศบ.ทก. แล้วสัปดาห์นี้แต่ขอ “กัมพูชา-ARMAC” แสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังพบมีลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำทหารไทยบาดเจ็บสาหัส โดยในวันพรุ่งนี้ จะนำผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว อาเซียนลงพื้นที่ จ.อุบลฯ และกองทัพภาคที่ 2 ขณะกระทรวงต่างประเทศ จี้ นานาชาติทบทวนการช่วยเหลือกัมพูชาและในวันศุกร์นี้ จะมีการเชิญรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รับฟังข้อเท็จจริง
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงถึงสถานการณ์ล่าสุด โดยพลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้มีการเฝ้าระวัง และมีการติดตามสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการสังเกตเห็น และพบการปฎิบัติของฝ่ายกัมพูชาในการเสริมที่มั่นแข็งแรงในพื้นที่ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
ขณะที่การปฎิบัติงานของผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย มีแผนลงพื้นที่ ในวันพรุ่งนี้ (14ส.ค.68) เพื่อสังเกตการณ์ และผลกระทบต่างๆ ในพื้นที่ตลอดจนชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อแสดงความโปร่งใส ที่จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อลงพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว วันที่ 15 ส.ค. ก็จะมีการสรุปผลการดำเนินการ และทบทวนแผนการปฎิบัติ
ส่วนประเด็นเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการเสริมสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทาง ศบ.ทก.โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบ.ทก. ให้มีความห่วงใย และพยายามเร่งหาแนวทางในการประสานความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้รับการต่อรับ หรือความร่วมมือจากฝ่ายกัมพูชาใด ๆ เท่าที่ควร ดังนั้น จึงได้เร่งประสานงานผ่านกระทรวง การต่างประเทศ ขอให้ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือด้านการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (ARMAC) ซึ่งปัจจุบันมี ผอ.ศูนย์เป็นชาวกัมพูชา
โดยฝ่ายไทยได้ขอให้ฝ่ายกัมพูชา และ ARMAC แสดงความจริงใจ ในการสนับสนุนภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน เนื่องจากยังพบว่า ยังมีการกัมพูชา ยังคงลักลอบวางทุ่นระเบิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุนระเบิดถือเป็นภัยคุกคาม ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ทหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบ และอันตรายต่อประชาชน ของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ แนวทางการทำงานจะให้ ARMAC เข้ามาสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ควบคู่กับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติไทย หรือ TMAC เพื่อร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้มากที่สุด เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ให้มีความปลอดภัยโดยเร็ว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ที่มีแม่ทัพภาคต่าง ๆ เป็นประธานร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีข่าวดี กองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้มีการหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดย กปช.จต. ได้แจ้งมาว่า จะมีการกำหนดจัดการประชุม RBC ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ในพื้นที่จังหวัดตราด
ส่วนในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และ 2 ยังอยู่ระหว่างการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน คาดว่า จะเป็นช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ และแน่นอนว่า หนึ่งในหัวข้อที่จะถูกกำหนดไว้ในการพูดคุยการเจรจา ก็คือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งไทยขอความจริงใจกับฝ่ายกัมพูชาในการขอความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการแถลงการประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อกรณีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 9 และ12 ส.ค. ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยและขัดต่อหลักการพื้นฐานสำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในองค์การสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการ ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
สำหรับเวทีในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึง ประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา เพื่อเรียกร้อง ไปยังฝ่ายกัมพูชาให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือ ถึงเลขาธิการสหประชาชาติขอรับความชัดเจน (request for clarification) จากฝ่ายกัมพูชาต่อการ กระทำที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และได้ทำการประท้วงอีกครั้งเพื่อติดตามความชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว และกำลังรอการชี้แจงจากฝ่ายกัมพูชา
พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเก็บกู้ระเบิดแก่กัมพูชา มาหลายปี พิจารณาการช่วยเหลือดังกล่าวโดยคำนึงถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชามีการละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรง โดยในวันที่15 ส.ค.นี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะมีการเชิญรัฐภาคีอนุสัญญาเข้ารับฟังข้อเท็จจริง เรื่องดังกล่าวเป็นการเฉพาะด้วย
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง สะท้อนความไม่จริงใจของกัมพูชาในการแก้ปัญหา และไม่เป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิง ในการประชุม GBC เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับประเด็น ศบ.ทก.เตรียมยุติบทบาท นั้น ทาง พลเรือตรี สุรสันต์ ยอมรับว่า อาจจะเป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุ
โดยที่มีแนวโน้มในการยุติบทบาทในเร็ววันนี้ และให้กลไกหลักดำเนินการแทน แต่หากเกิดเหตุการณ์ สามารถกลับมาใหม่ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews