GBC จบศึกเขมร Vs สัญญาน “นายกอิ๊งค์” ลาออก?
”ศึกนอก” ฝีมือ “ลุงเกเรข้างบ้าน” ที่จนบัดนี้ยังงงๆ ถึงสาเหตุที่แท้จริงนอกจาก ”ศึกคลิปลับลุงกันหลาน” ที่เป็น “นายกประเทศไทย”แต่มีความบานกลายเป็น “ศึกเขมร-ไทย”เจ็บจริงตายจริง แถมเปิดช่องให้ ”คนไกล” อย่างสหรัฐฯเข้ามาแจม ทำเอาทั้ง “คนไทย” คนในประเทศอาเซียน กังวลมาแรมเดือน
คล้ายดูเหมือนจะจบลงด้วยภาพ “สัญญบวก”ผ่านภาพ“บรรยากาศ ก่อน ข้อสรุป การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBCไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่มี มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน
เข้าร่วมสังเกตการณ์วันนี้(7ส.ค.) กับการลงนามข้อตกลง 13 ข้อหยุดยิง ที่“หัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชา” ”พลเอก เตีย เซรยฮา” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา หัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชา
มีการจับไม้จับมือกับ “บิ๊กเล็ก” “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รักษาการแทนรมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย ก่อนพิธีลงนาม
โดยไฮไลท์จาก ข้อตกลง 13 ข้อ คือการ ยึดมั่นการหยุดยิงอย่างเด็ดขาด ครอบคลุม อาวุธทุกประเภท ไม่เสริมกำลังอาวุธ ไม่เพิ่มเติมกำลังทหาร สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน โดยมีประเทศอาเซียนคอยเป็นพยาน และประสานงานอย่างใกล้ชิด กับคณะกรรมการRBC และGBC ของทั้งสองประเทศ
เรียกว่าแม้ข้อสรุปจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการปะทะขัดแย้ง”หน้างาน” ที่ยังไม่มีหลักประกันหลังจากนี้ว่าจะไม่มีปืนลั่นที่ชายแดนจากฝั่งเขมรขึ้นมาอีกจากข่าว การเคลื่อนกำลังจำนวนมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยไม่ไปพูดถึงปัญหาคาราคาซังระหว่าง2ประเทศ เรื่องเขตแดนพรมแดน ที่ยังมีความซับซ้อนเชิงผลประโยชน์ในมิติที่“ฝ่ายการเมือง”ของ2รัฐบาล “คู่ขัดแย้ง”
บังเอิญคล้ายกับการมี “ผู้นำ”ซึ่งมี “บทบาท”ต่อสถานการณ์ ที่เป็น “คู่พ่อลูก” 2 ตระกูล ที่เคยมีความสัมพันธ์กันดี อย่าง “ฮุนเซน-ฮุนมาเน็ต”นายกฯเขมร และ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “แพทองธาร ชินวัตร”นายกฯไทย ถูกวิเคราะห์และวิจารณ์เชิงลบ ว่า อาจเป็น “ต้นทาง”ของปัญหา ที่ลุกลามผ่านมาหรือไม่ และปัญหาความขัดแย้งนี้เริ่มเกิดความกังวลจากบรรดาประเทศในอาเซียน
อย่างที่ รมต.ต่างประเทศสิงคโปร์บ่นดังๆเมื่อวานซืน(5ส.ค.) ศึกเขมร-ไทย ที่ดูไร้เหตุผล จะต้องถึงขั้นต้อง “เล่นใหญ่” เป็นการ “บั่นทอน”ความเจริญของกลุ่มประเทศอาเซียน
ที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเริ่มหันกลับมาจับตา “สัญญาน”ต่างๆที่ออกมาจาก “ตัวละคร” รายล้อมกลุ่ม “ผู้นำ”ในรัฐบาลของ2ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาการท่าทีของ “ฮุนเซน”ออกมาโพสFBวันนี้ ตอบโต้ “ข่าวลอบสังหาร” เขาโดยฝ่ายกองทัพไทย ที่ถูกนำเสนอโดยสื่อของกัมพูชาเอง ในท่ามกลาง “สงครามข่าวสาร” ที่ฝ่าย “กองทัพไทย” มีการแยก ประชาชน และ กำลังพล ออกจาก รัฐบาลกัมพูชา
ทั้งจากประเด็นความเหลื่อมล้ำและมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็นข้อเปรียบเทียบ สถานะและการดูแล ทหารBHQ ของ “ฮุนเซน”กับ ทหารบ้าน ที่ถูกส่งมารบแนวหน้า เสียชีวิตจำนวนมากแต่ไม่มีการเก็บศพคืนไปยังครอบครัว ไม่นับรวม ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ของประชาชนจาก “ศึกเขมร”ครั้งนี้ ที่สถานการณ์ยิ่งแย่ลงจากการ “แปรพักตร์”จากจีน ที่ตัดสินใจโดย “2พ่อลูกฮุน” และมีการจับสัญญาน “ความไม่พอใจ”แต่ไม่กล้าออกมาพูด ของ คนกัมพูชา เพื่อเปิดช่องให้ ฝ่ายการเมืองตรงข้าม “รัฐบาลฮุน”ขยับ
ในขณะที่ มิติการเมือง ฝั่งไทย ก็มีการจับสัญญานโฟกัสไปที่ชะตากรรมทางการเมือง โหมด “นิติสงคราม”ของทั้ง “ทักษิณ-อิ๊งค์”ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.ที่มีคิวต้องถูกศาลตัดสิน โดยของ “นายกอิ๊งค์”อยู่ในขั้นตอนเพิ่งส่งคำชี้แจงคดี “คลิปเสียงฮุนเซน”ให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ไปตั้งแต่วันที่ 4ส.ค. ที่ศาลจะมีการ นัดพิจารณาและตัดสิน ที่มีกระแสข่าวว่า “อิ๊งค์”จะตัดสินใจ “ลาออก”เพื่อ “ตัดจบ”ไม่ติด “มลทินการเมืองจริยธรรม”แบบที่ “เศรษฐา ทวีสิน”อดีตนายกฯเพื่อไทย โดน ที่ประเด็นดังกล่าวถูก “ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง”จับตา ว่าเริ่มมีบางสัญญานการเมือง ทั้งในสภาที่เกิดเหตุสภาล่ม และนอกสภา อันสะท้อนทิศทาง ข้อสรุปที่ล้อไปกับประเด็น การแก้โจทย์ปัญหาความมั่นคงศึกเขมร
อย่างที่ “ตู่ จตุพร พรหมพันธ์”โพสFB ที่นอกจากจะระบุว่าเรื่องศึกเขมรเกี่ยวข้อง กับภาพการเมืองภายในประเทศ แล้วยังวิเคราะห์ ว่าขณะนี้ “อุ๊งอิ๊ง”อยู่ระหว่างทางสองแพร่ง ระหว่างลาออกก่อนหรือรอวันศาล รธน.วินิจฉัย แม้ “หมอมิ้ง” เลขาธิการนายกฯ บอกยังไม่ตัดสินใจวันนี้ ซึ่งจะไม่แตกต่างจากทักษิณ กอดคอ “อนุทิน” อีกทั้งยืนยันว่า อุ๊งอิ๊ง ยังอยู่กับอาการลังเลใจว่า จะลาออก หรือไม่
เพราะศาล รธน. ยังไม่นัดอ่านคำวินิจฉัย ถ้าศาลกำหนดวันแล้ว คงคาดคะเนการอยู่หรือไปจากตำแหน่งนายกฯ ได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อยังมีเวลาอยู่ อุ๊งอิ๊งจึงไม่รีบตัดสินใจอย่างใดทั้งสิ้น ทั้งที่ไม่รู้เธอจะเอาเวลาไปเพื่ออะไร ถ้า อุ๊งอิ๊ง มีความป๊อปปูล่า หรือเธอคือผู้นำเป็นความหวังของคนทั้งประเทศ ซึ่งประเทศขาดเธอไม่ได้ ถ้าเธอรอด คดีศาล รธน. โอ้โหคนจะแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่ลองถามสิว่า อารมณ์อย่างนี้ มีอยู่กับเธอหรือเปล่า
เช่นเดียวกับ “สมชาย แสวงการ”อดีตสว.ที่โพสFBว่า อ้างอิงข่าวตลาดหุ้นไทย ที่ตอบรับกับข่าวการลาออกของนายกฯ ว่า เขียวทั้งกระดาน เหลือเชื่อตลาดหุ้นไทย ดีดแรงสุดๆเพราะคาดกันยานี้ นายกแพทองธารจะพ้นตำแหน่ง set index ที่ตกต่ำมาตลอดปี ทะยานไปที่ 1,350 จุด อะไรจะดีใจออกหน้าออกตาขนาดนี้ อ่านขาดแบบไม่ไว้หน้ากันเลยนะ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
                                        
                        
                    




