Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ทรัมป์” กร้าว “รัสเซีย” ต่อ หลังโดดร่วมศึกไทย-เขมร

 

มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ยกย่องตัวเอง ว่า เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ หลังจากทำให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง โดยนำเรื่องภาษีการค้ามาขู่

เพราะล่าสุด “ทรัมป์” ได้โพสต์ข้อความใน Truth Social ระบุว่า ได้สั่งการให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ จำนวน 2 ลำเข้าประจำการใกล้รัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีที่ “นายดมิทรี เมดเวเดฟ” รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ควรตระหนักว่ารัสเซียมีความสามารถในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์

 

ซึ่งท่าทีอันแข็งกร้าวของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่มีต่อ “รัสเซีย” นั้น ในมุมมองของ “ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้สะท้อนภาพไว้อย่างน่าสนใจ โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความในหัวข้อว่า “เป้าหมายใหม่ที่สุดอันตรายของ President Trump !!! มีข้อความว่า หลังจบยก 1 ของ สงครามการค้าโลก โลกยกย่องว่าเป็น Dealmaker in Chief ปรมาจารย์ในการทำดีล ที่โลกสะเทือน ท่านประธานาธิบดี ก็ไม่รอช้า เริ่มยกใหม่ แต่คราวนี้ กับคู่ต่อสู้สุดอันตราย นั่นคือ รัสเซีย !!!

 

ข่มขู่รัสเซียให้ยอมสงบศึกกับยูเครน พูดดูเบารัสเซียในหลายโอกาส ล่าสุด หลังอดีตประธานาธิบดี Medvedev ของรัสเซียเขียนตอบโต้ว่า ทุกคำขู่ที่ Trump สั่งให้รัสเซียจบสงครามกับยูเครน
คือ การคุกคามรัสเซีย และ คืออีกก้าวสู่สงครามระหว่างรัสเซียและอเมริกา

ล่าสุด President Trump ได้ยกระดับการกดดัน โดยสั่งเคลื่อนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐ 2 ลำ ไปรอที่ “ตำแหน่งที่เหมาะสม” เตรียมพร้อมในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย !!! สะเทือนทุกตลาดการเงินโลก Dow Jones -600 จุด

Nasdaq ลง 2%
Bitcoin ลง 2%
ทองทะลุ 3,400 ดอลล่าร์อีกรอบ

แม้เรื่องนี้ยังคงต้องใช้เวลา แต่เป็นยกใหม่สุดอันตรายของคนที่ชื่อว่า Donald J Trump

 

ขณะที่ “รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์” นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.ไอ.เอ็น.ว่า การสั่งเคลื่อนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯจำนวน 2 ลำนั้น
ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการที่จะแสดงให้เห็นในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ในที่สุดแล้ว ไม่ได้นำไปสู่ประเด็นการเผชิญหน้าเรื่องนิวเคลียร์

 

ส่วนความคืบหน้าเรื่อง “ภาษีทรัมป์” หลังจากไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยได้รับอัตราภาษีฯ ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาคอาเซียน และดีกว่าเวียดนามนั้น ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับมุมมองการส่งออกไทย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดีขึ้นกว่าเดิม

 

ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไทยต้องยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ราว 90% ของสินค้าทั้งหมด รวมถึงลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลง ทาง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาจไม่ทำให้สินค้าสหรัฐฯ ไหลบ่าเข้ามาในไทยมากอย่างที่กังวล

 

ดังนั้นภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดส่งออกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตดีขึ้นเล็กน้อย ที่ 1.5% จากเดิม 1.4% ท่ามกลางท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด ประกอบกับปัจจัยกดดัน จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย ขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.5%

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาบทบาทของประธานาธิบดีสหรัฐ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” อย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับ ทุกคำพูด ย่อมส่งผลต่อโลกและประเทศต่างๆนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube