เสียงแตก! สร้างกำแพงกั้น ชายแดนไทย-กัมพูชา

แนวคิดการสร้างกำแพง เพื่อเป็นแนวกั้นระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาอีกครั้ง แต่การสร้างกำแพงจะช่วยได้จริงหรือไม่ หรือจะสร้างปัญหาใหม่ สำรวจความเห็นของประชาชนพบว่า มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลที่แตกต่างกัน

 

 

หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลให้ประชาชน หลายจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดน จำนวนมาก ต้องอพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยเหตุการณ์ยืดเยื้อต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน แม้จะเกิดการหยุดยิงแล้ว เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แนวคิด “สร้างกำแพงถาวร” บริเวณชายแดนถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งในสังคมไทย อีกทั้ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ได้มีการเสนอแนวคิดนี้ งบประมาณจะนำมาจากไหน และกำแพงจะช่วยจริงหรือไม่ หรือจะสร้างปัญหาใหม่

 

เหตุผลที่หลายเสียงอยากให้มี “กำแพงถาวร” เพื่อป้องกันการแทรกซึมของกำลังติดอาวุธ หรือภัยจากอีกฝั่ง รวมถึงเป็นแนวกันชนชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงต่อพลเรือน และทำให้ฝ่ายความมั่นคงควบคุมพื้นที่ได้ง่ายขึ้น

 

ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย กังวลว่า จะกระทบสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ไว้ใจกัน หรืออาจละเมิดสิทธิมนุษยชน ถ้ามีการจำกัดการเดินทางของคนชายแดน จึงอาจไม่ใช่ “ทางออกระยะยาว” เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ แต่เป็น “การเมืองภายในกัมพูชา”

 

วันนี้ ทีมข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อแนวคิดการสร้างกำแพงกั้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่า มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยให้เหตุผลที่แตกต่างกัน

 

เริ่มจาก น้องเปรม คนกรุงเทพฯ รู้สึกกังวลกับสถานการณ์ชายแดน เพราะว่าประเทศไทยรักสงบมาตลอด ตั้งแต่ตนเกิดมา ก็ไม่เคยเห็นสู้รบกับใคร แต่ครั้งนี้ มาสู้รบกับกัมพูชา ซึ่งยังไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งตนก็ยังเป็นเด็ก ไม่รู้อะไรมาก และตนไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ส่วนแนวคิดการสร้างกำแพงกั้นชายแดน ไทย-กัมพูชา นั้น ส่วนตัว “เห็นด้วย” เพราะปัญหาทางชายแดนมีมาเนิ่นนานแล้ว และมีสงครามเกิดขึ้น อยากให้รัฐบาลเด็ดขาด สร้างกั้นไปเลย จะได้ไม่ต้องมีปัญหาในภายหน้า ดีกับสถานการณ์ชายแดนแล้วก็ดีกับประชาชนด้วย

 

ขณะ คุณวัฒนา “ไม่เห็นด้วย” การที่ไปสร้างแนวกั้น หรือกำแพง ในขณะนี้ เหมือนกับเป็นแนวคิดที่ถูกใจคนกัมพูชามากกว่าคนไทย ในฐานะที่ตนมีอายุเลยวัยกลางคนมาแล้ว ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ เห็นว่า แผ่นดินของเราหายไปเยอะ เรายังไม่ได้แผ่นดินเก่าที่เสียไปคืนมาการที่ไปกั้นกำแพงก็เหมือนยอมรับสภาพแผ่นดินปัจจุบันที่เคยเสียไป

 

ด้านพี่สมศักดิ์ “เห็นด้วย” กับการสร้างกำแพงกั้น เพราะสถานการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ วุ่นวาย เค้าไม่รับเราเป็นพวกแล้ว เราก็อย่ารับมาเป็นเพื่อนเลย ไม่คบแล้ว ทำถึงขนาดนี้ อย่าคบกันเลย ตัดญาติขาดมิตรกันไปเลย

 

 

อย่างไรก็ตาม การสร้างกำแพงเป็น “แนวคิดที่ตรงไปตรงมา” สำหรับสถานการณ์รุนแรง แต่หากมองลึกลงไป การเสริมกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง และ การสื่อสารระหว่างรัฐบาล อาจเป็นวิธีแก้ที่ยั่งยืนกว่า เพราะ “กำแพง” ไม่ได้หยุดสงคราม อาจแค่ทำให้มองไม่เห็นว่า ไฟสงครามยังไหม้เงียบๆ อยู่ตรงไหนหรือไม่

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews