“ทักษิณ” นำทัพทีมไทยแลนด์ สู้ “ภาษีทรัมป์ 36%” ไหวมั้ย?
แม้ฝ่ายต้าน ”ทักษิณ” จะออกมาวิจารณ์ประปรายหลังอีเว้นต์ใหญ่ผ่าทางตันที่เนชั่นไม่เชื่อว่า “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อ “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร” จะมีน้ำยาในทุกโหมดวิกฤติปัญหาที่รุมเร้าประเทศไทยยามนี้ ไม่ว่า การเศรษฐกิจ ความมั่นคง หรือ แม้แต่ปัญหาการเมือง ณ พ.ศ.นี้ หากแต่สัญญานที่ถูกส่งผ่าน
ปรากฎการณ์วันนี้(11ก.ค.)ที่ “บ้านพิษณุโลก”กับการนัดประชุม “ทีมไทยแลนด์” ที่นำโดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯและ รมว.คลัง และ “รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ” ครม.อิ๊งค์1/2ทั้งอุตสาหกรรม,พาณิชย์,เกษตรฯ ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจ และ “จักรภพ เพ็ญแข” อดีตโฆษกรัฐบาลสมัยรัฐบาลทักษิณ ที่มีข่าวว่า เขาจะกลับมาเป็นโฆษกรัฐบาลแทน “จิรายุ ห่วงทรัพย์” เพื่อปรับการสื่อสารทางการเมืองกับประชาชน กลับเป็นตัวสะท้อนภาพ เนื้อหาที่ “ทักษิณ” พูดกับ 3 บก.เนชั่น ทำนองเหมือนส่งสัญญานในทีไปยัง “ผู้กุมดีล” ว่าสถานการณ์วิกฤติที่มีเส้นตายอีกไม่กี่วันข้างหน้าอย่างกรณี “ภาษีทรัมป์36%” จำเป็นต้องกลับมาใช้บริการของเขา
ไม่แต่การยอมรับจาก “พิชัย” ที่ออกตัวว่าเป็นคนเชิญ “ทักษิณ” มาให้คำปรึกษา “ทีมไทยแลนด์” เอง ในฐานะที่นายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี โดยวงประชุมมีการถกปมจดหมายน้อยสหรัฐ ปม “ภาษีทรัมป์36%” ที่เป็นการเลื่อนเวลาให้ไทยการเจรจายังไม่ถึงที่สุด วันนี้จึงมีการทบทวน เพราะยังมีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อจะได้ข้อยุติกับสหรัฐฯ ซึ่งจะพูดคุยกันอีกรอบ หลังเมื่อวานนี้ มีการประชุมสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย และบริษัทใหญ่ ๆ ว่าหากได้รับผลกระทบ จะมีมาตรการรองรับอย่างไร
ซึ่งมีข้อสรุป 3 แนวในการเจรจา คือ
1.การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จะต้องไม่ให้ผู้ผลิตโดยเฉพาะเกษตรกร และอุตสาหกรรมรายย่อยได้รับผลกระทบ
2. การนำเข้าสินค้าจะต้องดูแลให้ทั่วถึง ไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่เหมาะสม และถือเป็นโอกาสในการทบทวนตัวเองให้ สินค้าได้รับการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งขาเข้าและขาออก
3. มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ของสหรัฐฯ
และว่ายืนยัน เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นว่าหลายสิ่งที่ทำหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องเฉพาะอัตราภาษีอย่างเดียว เป็นเรื่องอื่น ๆ ประกอบด้วย จะชี้แจงให้ชัดเจน หวังว่าจะได้ในส่วนที่ไม่ทำให้เสียเปรียบ และเชื่อว่าไทย จะไม่ได้รับผลกระทบสูงกว่าประทศอื่น โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเมื่อวาน(10ก.ค.) “ทักษิณ” ก็มีการประชุมกับ ทีม “ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก”ที่นำโดย “พันศักดิ์ วิญญรัตน์”และมีข่าวก่อนหน้าแล้ว ว่าเขาจะเข้าร่วมประชุมกับ “ทีมไทยแลนด์”และ “รัฐมนตรีเศรษฐกิจ”วันนี้
ที่น่าสนใจเมื่อลองกลับไปดูเนื้อหาที่“ทักษิณ”คุยเรื่องการเจรจา “ภาษีทรัมป์”นอกจากการโชว์ อ่านความคิด “ทรัมป์”ที่เป็น “นักธุรกิจ”ย่อมใช้วิธีทางธุรกิจในการเจรจา เหมือนบริษัทใหญ่ ที่มีอำนาจต่อรองสูง ยื่นเงื่อนไขที่คุณต้องยื่นไปก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจบ ต่อรองได้แล้วค่อยคุย แม้วันนี้มีจดหมายออกมาจากทำเนียบขาว ข้อเสนออันใหม่ของเราที่ปรับปรุงยังไปไม่ถึง
ทางทำเนียบขาวสรุปไปก่อน แต่เรายังไม่หยุด ยังเจรจาต่อในห้วงเวลาที่เหลือ 20 วัน
และว่าเราต้องคิดทางถอย ถ้าเราให้ไปทุกอย่างก็ไม่ไหว ให้เท่าที่ไม่เสียหาย ซึ่งการส่งออกไปสหรัฐฯ มี 3 ส่วนใหญ่ คือ
1. เป็นสินค้าที่บริษัทสหรัฐฯ มาจ้างทำที่ประเทศไทย หรือมาตั้งบริษัท แล้วส่งไปที่สหรัฐฯ ซึ่งส่วนนี้เราคิดค่าแรงและหากส่งกลับไปบวกภาษี 36% คนที่ต้องแบกรับภาระ คือคนอเมริกัน ขณะเดียวกันการย้ายฐานการผลิตบางอย่างยากมาก เพราะคนไทยมีความเชี่ยวชาญ
2. ชิ้นส่วนมาจากประเทศจีน ประกอบที่ไทยแล้วก็ส่งไปขายสหรัฐฯ ส่วนนี้เราเกินดุลสหรัฐอเมริกา แต่ขาดดุลที่จีน ซึ่งส่วนนี้เราไม่ค่อยเดือดร้อน
3. อันนี้เดือดร้อน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ของ SMEs สินค้าการเกษตร ที่เราจะต้องป้องกัน กลไกนี้เราไม่สู้ยักษ์ใหญ่แต่ขอความแฟร์ว่า เราเสียทุกอย่างคุณก็เสียบ้าง
ส่วนที่มีปัจจัยเรื่องภูมิศาสตร์การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะประเทศที่อยู่ตรงกลางจะบริหารอย่างไร ทักษิณบอกว่า อย่าตกใจ เลือกเท่าที่ทำได้ อย่างเขามาขอที่ไม่ได้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ แต่ไปเกี่ยวกับความมั่นคง นำสงครามมาบ้านเรา เราก็ไม่เอา ซึ่งเราต้องดูทุกมิติ พร้อมย้ำว่า คนไทยอย่าเพิ่งสรุปหรือตกใจ ตนยังอยู่ ตนไม่โง่ 76 ปี ยังไม่โง่ ส่วนที่ทำอยู่เดินมาถูกทางหรือไม่นั้น ทักษิณบอกว่า อาจจะยังไม่เต็มที่ แต่ปรับได้ ซึ่งสุดสัปดาห์นี้จะคุยลงลึกในรายละเอียดกัน
เรียกว่าการโชว์แนวคิดของ “ทักษิณ”เรื่องนี้มีการวิเคราะห์ถูกมองเป็นการเสนอตัวให้ทั้งนักลงทุน และผู้กุมอำนาจเห็นว่าทำไมต้องใช้บริการเขา ที่ก็สอดคล้องกับข้อสังเกตจาก “ช่อ พรรณิการ์ วานิช” จาก “คณะก้าวหน้า” วิเคราะห์ความพยามสื่อสารของ “ทักษิณ”ไปยัง “ฝ่ายอำนาจ”ผ่านเวที”ผ่าทางตัน” ทั้งที่ทักษิณมองว่าตัวเองเป็นหลักพยุงพรรคเพื่อไทย และหลักประกันความอยู่รอดของประเทศ ที่ย้ำหลายครั้งว่า “ผมยังอยู่ ไม่ต้องกลัว” “นายกอิ๊งจะทำได้ เพราะมีพ่อช่วย”
และการมองว่าการเมือง วนอยู่กับการจำกัดอำนาจตนเอง บีบให้ต้องร่วมรัฐบาลกับ “พรรคอื่น” ทำให้มีข้อจำกัดเยอะ ในการสร้างผลงาน ต้องดีลกับ “ภูมิใจไทย”ที่ขวางทุกเรื่อง หากตัวเองได้มีอำนาจเต็ม ทุกปัญหาจะแก้ได้ เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นแน่เพราะตนรู้วิธีไปดีลเอาเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน พัฒนาประเทศไทย และยังเชื่อว่าประเทศที่ดีคือประเทศที่มีทักษิณเป็นนายก
โดยยืนยันว่าอย่ากลัวเขา เพราะเขาทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





