นายกฯย้ำ เปิด-ปิดด่าน ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง
นายกฯ สั่งรับมือทุกมิติ ทั้งสถานการณ์โลก ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำ จุดยืนไม่มีการเปิด-ปิดด่าน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ที่ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ไม่มีพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลแล้ว โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการประชุม ว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งในอิสราเอล-อิหร่าน
รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีทุกคนร่วมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมหามาตรการรองรับ
เพื่อให้กระทบกระเทือนประชาชนน้อยที่สุด พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า สถานการณ์เช่นนี้เสถียรภาพของรัฐบาลสำคัญมาก และความสามัคคีของคนในประเทศสำคัญ ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ และแก้ไขปัญหาอย่างทันการ
โดยรัฐบาลให้ความสำคัญ ด้านภัยคุกคามของความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาได้สั่งการทุกฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ และขอย้ำว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในการตอบโต้การเปิด-ปิดด่านชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่จะคำนึงถึงผลกระทบของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญโดยได้เตรียมมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนในบริเวณชายแดนอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร ได้สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง จากทั้งภาครัฐ และเอกชน
ส่วนด้านความมั่นคงพลังงาน กระทรวงพลังงานได้กำหนดมาตรการรับมือพลังงานสำรอง และมาตรการช่วยเหลือประชาชนหากมีภาวะขาดแคลน หรือราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ปัญหาด้านเศรษฐกิจการเงิน และการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการ และเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะช่วยเหลือประชาชน และภาคธุรกิจในทุกระดับ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ มากผิดปกติจนเป็นนัยสำคัญ ว่า อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธม อยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสมช. ได้มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณา มาตรการเปิด-ปิดด่านใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่าทหารอยู่ด่านหน้า สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจ ที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธม เป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้ามหรือไม่ห้าม และประสาทตาเมือนธมที่ผ่านมาขึ้นมาขึ้นได้ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริงว่าควรจะปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





