ขุดตำนานคดี 9 จารชนขายชาติ – ไทยเสียลับแพ้เขาวิหารศาลโลก
ผลพวงจาก “คลิปลับฮุนเซน-นายกอิ๊งค์ แพทองธาร”ที่ก่อแรงกระเพื่อมทางการเมืองครั้งใหญ่จากภายใน-ภายนอกรัฐบาล เคลื่อนไหวออกมาขับไล่ “นายกอิ๊งค์”โดยเฉพาะ “ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน”ที่ “หลอมรวม”“ทุกสีเสื้อ” แถลง(20มิ.ย.) จี้ให้”นายกอิ๊งคฺ” ลาออกและเรียกร้องให้ “พรรคร่วมรัฐบาล”ถอนตัวจากรัฐบาล โดย นัดชุมนุมใหญ่กดดดัน 28มิ.ย.
ในขณะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)มีการยื่น ต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)และ “ศาลรัฐธรรมนูญ”ให้ “ถอดถอน””นายกอิ๊งค์”ตามม.170วรรค3ประกอบม.82 โดยถนนทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน , สว., ม็อบ นอกจากจะ เห็นว่า “นายกฯ”หมดความชอบธรรม ไม่น่าไว้วางใจ ให้เป็น “นายกฯ”ต่อไป
ยังมีประเด็นที่น่าสนใจกับการ “จับผิด”พฤติกรรม “รัฐบาลอิ๊งค์”ย้อนหลัง ช่วงที่ สมช.ให้ “กองทัพภาคที่2” ทำการปิดด่าน ซึ่งอยู่หลังวันที่ “นายกอิ๊งค์”คุยโทรศัทพ์กับ “ฮุนเซน”1วันที่ “สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม” หนึ่งในแกนนำ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” ระบุว่าถือว่า”นายกอิ๊งค์”ดำเนินการตามที่รับปาก “ฮุนเซน”ผ่านทางโทรศัพท์ ที่ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว
โดยที่หลังจากนั้น(21มิ.ย.)มีการออกมาของ “สมชาย แสวงการ”อดีตสว.และ อดีตรองประธานคกมธ.ต่างประเทศ สนช ซึ่งเป็นร่วมยื่นถอดถอนนายกฯ โพสFBตั้งคำถามกับ รมว.ต่างประเทศ กรณี“นายก โทรศัพท์หารือกับฮุนเซน ที่ช่วงท้ายมีการระบุ “นายกอิ๊งค์”อาจ มีประเด็นความผิดตามมา ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา122(3)(4) ตามที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม อีกหรือไม่ เพราะถ้าทำโดยพลการ อาจเข้าข่าย กระทำจารกรรมหรือแนะนำข้าศึก 122(3) หรือกระทำอื่นใดให้ข้าศึกได้เปรียบตาม122(4)
ทำหน้าน่าสนใจย้อนกลับไปดูตำนานคดี “9จำเลยคดีจารชน”ที่ “คำนูน สิทธิสมาน”นำคำพิพากษาของ “ศาลทหาร” มาโพสFB โดยศาลมีคำพิพากษาคดีอาญา วันที่ 1พ.ย.2508 ในคดีดำที่570-1337/2508 และคดีแดงที่ 2603-2605/2508 ระหว่าง อัยการศาลทหารกรุงเทพ กับ 9 จำเลย เป็นลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส2เจ้าหน้าที่คนไทย7 คน คือ
นายยอนนา ซอง ปอล ปรั๊ก,,นายมีแซล ลามาช ,นายสนม,นายประเสริฐ,นายสุวรรณ,นายหมง,ร.ต.ท.วีระ ,จ.ส.ต.รังสรรค์และ นายสวย เรื่องร่วมกันกระทำความผิดต่อคยามมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร โดยคดีนี้เกิดขึ้น
ในช่วงปีพ.ศ.2501-2508 ที่ไทยกำลังมีเรื่องกับเขมรปมเขาพระวิหารที่เขมรฟ้องต่อศาลโลก ตั้งแต่ช่วง “รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์”จนถึง “รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร”โดย “คำนูน”อ้างถึง”ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์” อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติที่เคยเขียนหนังสือ “ไล่ล่าจารชน”ไว้ว่า ยุคนั้น ตำรวจสันติบาลและเจ้าหน้าที่กรมประมวลข่าวกลาง ปัจจุบันคือ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ)ดำเนินการจับกุม “สายลับ”หรือ”จารชนล็อตใหญ่”
ซึ่งมีทั้งคนเขมร คนไทย และคนฝรั่งเศส คนเหล่านี่มีทั้งที่ทำงานในทำเนียบรัฐบาล ในกระทรวงมหาดไทย ในตชด. มีตัวตนชื่อเสียงเรียงนามชัดเจน เครือข่ายสายลับทำงานต่อเนื่องกันหลายปี
โดยจากข้อมูลของ “ภุมรัตน”ระบุพฤติกรรม การฝั่งตัวในทำเนียบ,กระทรวงมหาดไทย,กระทรวงการต่างประเทศของ และกรมตำรวจ ของ สายลับ ที่ส่งเอกสารลับต่อๆกันจนไปถึงชาวฝรั่งเศสโดยมีการส่งกันที่สวนลุมพินี และ ใกล้สถานทูต ฝรั่งเศส ซึ่งคนฝรั่งเศส จะนำซองเอกสารลับไปเปิดที่ห้องพิเศษละแวกสถานทูตฝรั่งเศส ถ่ายสำเนาไว้ แล้วรีบส่งคืนสายลับ ทำกันอย่างนี้เป็นปกติวิสัยอยู่หลายปี มีเอกสารลับตกอยู่ในมือคนฝรั่งเศสไม่ต่ำกว่า 576 ฉบับ
ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลท่าทีไทย ในการต่อสู่คดีปราสาทพระวิหารบนศาลโลก ICJ ที่เชื่อว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ไทยแพ้คดีปราสาทพระวิหารบนศาลโลก ICJ เมื่อปี2505 ซึ่งต่อมามีการจับกุม 9 จารชน ส่งฟ้องศาลทหาร มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุดให้จำคุก สายลับคนหนึ่ง สารภาพว่าได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ถือเป็นเงินมากโขอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับว่าสมัยนั้นข้าราชการแรก บรรจุเงินเดือน 450 บาท ถัาจบปริญญาตรีได้เพิ่มเป็น 900 บาท
ที่น่าสนใจจากข้อเขียนเรื่อง “คนขายชาติพ.ศ.2556”ของ “ภุมรัตน”อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ(24ม.ค.56) ที่เขียนไว้ก่อนที่“ศาลโลก”ตัดสินให้เขมรชนะไทยอีกครั้งในปี2556 ว่า ปี 2505 ไทยเสียปราสาทพระวิหารจากคดีจารกรรม ฝรั่งเศส ที่มีจารชนเป็นคนไทยขายชาติ วันนี้ฝรั่งเศสและเขมร ไม่จำเป็นต้องสร้างจารชน สิ่งที่ฝรั่งเศสและกัมพูชาน่าจะได้ไว้แล้ว เราเรียกว่า “สายลับอิทธิพล” (Agent of Influence) ที่ไม่จำเป็นต้องซุกซ่อนตัวเหมือนเช่นจารชน
แต่อาจเป็นรัฐมนตรีหรือ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลในการกำหนด เปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายตรงข้าม หรือแอบไปตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับฝ่ายตรงข้ามโดยที่ประชาชนไม่รู้ สายลับอิทธิพลน่ากลัวมากกว่าจารชนทั่วไป เพราะสายลับอิทธิพลสามารถผลักดัน ให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายยิ่งกว่าการกระทำ ของจารชน และเป็นการยากสำหรับหน่วยต่อต้านข่าวกรองในการสืบสวนจับกุม นอกจากให้สังคมแซงก์ชัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





