Home
|
ข่าว

คปท.จี้ กต.ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชาติ ประท้วงเขมร

 

กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.และพันธมิตรได้เคลื่อนขบวนจากสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล มายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้มีการแสดงจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ อย่างเป็นทางการ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ชุมนุม มองว่ารัฐบาลไทยไม่ได้แสดงจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยไทยอย่างเป็นทางการ และอาจส่งผลเสียต่อการเจรจาในอนาคต โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับกองทัพธรรม จึงได้เคลื่อนขบวนมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยื่นหนังสือให้กระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ในการแสดงจุดยืน รักษาอำนาจอธิปไตยของชาติโดย อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า จากเหตุการณ์สถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา ทั้งเหตุการณ์การอ้างสิทธิ์ในดินแดน เหนืออาณาเขตอธิปไตยของไทย

เหตุการณ์ลอบเผาศาลาตรีมุข เหตุการณ์ที่ กลุ่มทหารและประชาชนกัมพูชา ขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธม ของไทย เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในเขตแดนไทย รวมถึงการร้องเพลงชาติกัมพูชาในปราสาทตาเมือนธม และเหตุการณ์การปะทะกันที่ช่องบก เห็นได้ชัดเจนว่า ทางฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมการและวางแผนสร้างเหตุการณ์ให้เกิดขึ้นอย่างมีลำดับขั้นตอน แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของประเทศที่มีชายแดนติดกันในการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศโดยมีท่าทีเชิงรุกและอ้างสิทธิ์เหนือประเทศไทย

 

แต่รัฐบาลไทยโดยการนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลความมั่นคงของประเทศกลับมีท่าทีที่อ่อนข้อ หรือ ยอมรับกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ทั้งที่ฝ่ายกัมพูชาได้อ้างสิทธิ์เหนือดินแดนไทย และกระทำการรุกล้ำอธิปไตยของไทย โดยที่ฝ่ายไทยยังนิ่งไม่ตอบโต้ ฝ่ายการเมืองที่เป็นผู้บริหารประเทศ ไม่เคยทำการยืนยันเขตแดนไทย หรือไม่เคยทำหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อท่าทีของกัมพูชา แม้แต่ครั้งเดียว

 

กระทรวงต่างประเทศ เป็นกระทรวงหลักที่จำเป็นต้องดำเนินการ ทำหนังสือประท้วงการกระทำของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยืนยันอธิปไตยของไทย และเป็นการรักษาสิทธิ์ ของประเทศในอนาคต ในการยืนยันว่า ประเทศไทยได้ดำเนินการทักท้วงทางการทูตไว้เป็นหลักฐานแล้ว

 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติ ที่เป็นสันติด้วยกันเพราะการทำสงครามไม่มีประโยชน์

 

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้แสดงให้เห็นว่าในท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ที่ดีมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ซึ่งอาจมีความไม่เข้าใจกัน รัฐบาลจึงพยายามที่จะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีในการแก้ปัญหา และในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC แน่นอน

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube