ทรัมป์ยังป่วน! ทองผันผวนต่อไป

ความไม่แน่นอน ในนโยบายของสหรัฐยังมีอยู่ หลังจากศาลอุทธรณ์สั่งระงับคำสั่งศาลการค้าระหว่างประเทศ ทำให้กำแพงภาษีที่ถูกประกาศโดยประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงอยู่ ส่งผลกับนักลงทุนและบรรยากาศการซื้อขายทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

โดยที่ย่านเยาวราชในวันนี้ (2มิ.ย.68) บรรยากาศการซื้อ-ขายทองคำค่อนข้างเงียบเหงา มีนักลงทุนรายย่อย ออกมาทยอยขายทำกำไรระยะสั้นบ้างบางส่วน ซึ่งล่าสุด ราคาทองคำวันนี้ (2 มิ.ย.) เปิดตลาดวันหยุดพิเศษ จันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2568 ปรับเพิ่มขึ้น 100 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 51,150 บาท ขายออก 51,250 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 50,134.12 บาท ขายออก 52,050 บาท

 

ขณะที่ราคาทองคำตลาดโลกลดลงเล็กน้อย สู่บริเวณ 3,305 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่วนค่าเงินบาทยังแข็งค่าอยู่แถวระดับ 32.77 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลราคาทองคำไทยขาดแรงหนุนที่จะปรับขึ้นแรง

ซึ่งปัจจัยสำคัญ ยังคงเป็นการดำเนินนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ถึงแม้ว่า ล่าสุด ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ สั่งระงับคำสั่งของศาลการค้าระหว่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้มีผลให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องยกเลิกมาตรการภาษี จึงทำให้แผนภาษีทรัมป์กลับมามีผลบังคับใช้ต่อไปได้อีกครั้ง

 

โดยนายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี รองเลขาธิการสมาคมค้าทองคำ บอกว่า นโยบายภาษีสหรัฐฯ มีผลต่อราคาทองคำ โดยต้องจับตาในช่วง 90 วัน หากกลับมาบังคับใช้จริงจัง ก็จะส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ช่วงนี้ที่เห็นว่าราคาทองคำนิ่งขึ้นเป็นเพราะชะลอดูความชัดเจน และอีกปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวแรงขึ้นได้ คือการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่เวลานี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 รอบการประชุม จึงจะมีการพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าช่วงที่เฟด จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอาจอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ทำให้เวลานั้นอาจต้องมาลุ้นบรรยากาศตลาดทองคำว่าจะกลับมาคึกคักได้หรือไม่หลังจากคาดการณ์ว่าจะมีผู้หันมาลงทุนในทองคำเพื่อลดผลกระทบจากผลตอบแทนที่ลดลงของอัตราดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งระงับคำสั่งศาลการค้าระหว่างประเทศที่สั่งระงับแผนบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. โดยให้เหตุผลว่าผู้นำประเทศใช้อำนาจฉุกเฉินเกินขอบเขตเพื่อดำเนินการดังกล่าว ทำให้มาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงมีอยู่

 

โดยคำสั่งของแต่ละศาลที่ออกมาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภาษี และกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ กลับมาแข็งค่าขึ้น

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews