ส่องทริปต่างประเทศ 3 นายกฯ “ยิ่งลักษณ์ – เศรษฐา – แพทองธาร” คุ้มมั้ย?

 

นอกจากปมดราม่า “รูปคู่” ให้กำลังใจระหว่าง “นายกอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร” กับ “อาปู – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่อังกฤษ ซึ่งสุ่มเสี่ยงถูกนำไปขยายผล ผู้คนใน “พรรคเพื่อไทย” ก็ได้ดาหน้าออกมาป้อง ว่า เป็น “รูปเก่า” แล้ว ยังมีประเด็นดราม่าเรื่องการ “จับผิด” ภารกิจต่างประเทศของ “นายกอิ๊งค์” โดยมีข้อสงสัยตั้งแต่การไปอังกฤษ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม EU แต่ไม่นำสื่อมวลชนไปทำข่าว กำหนดยังไม่เป็นทางการ ไม่มีการพบผู้นำระดับสูง ไปดูงานเวทีมวยและสนามแข่งรถ ทำให้ถูกหลายฝ่าย รวมถึง “สมชาย แสวงการ” อดีต ส.ว. ตั้งคำถาม เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณการเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้

 

จึงน่าสนใจที่จะลองย้อนดูและเปรียบเทียบทริปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี 3 คนจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่เคยถูกตั้งคำถามในลักษณะคล้ายกัน ได้แก่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกฯ คนที่ 28, “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ คนที่ 30 และ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ คนที่ 31 คนปัจจุบัน

 

นายกฯ คนที่ 28 – น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือเป็นนายกฯ ไทยที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยที่สุดคนหนึ่งภายใต้รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจาก “ทักษิณ” และทีมเก่าพรรคไทยรักไทย ที่มียุทธศาสตร์ รักษาความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยในช่วง 2 ปี (ส.ค. 2554 – ต.ค. 2556) พบว่า “ยิ่งลักษณ์” เดินทางไปเยือนต่างประเทศถึง 36 ประเทศ จากข้อมูลสำนักนายกฯ ระบุว่า เดินทางเยือนกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศ เยือนอย่างเป็นทางการ 27 ประเทศ และเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติ 21 เวที รวมเดินทางทั้งหมด 57 ครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง

 

แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องความสิ้นเปลืองงบประมาณนับหลายร้อยล้านบาท และถูกมองว่า หนีแรงกดดันทางการเมืองในประเทศ ยังมีเสียงกล่าวหาว่าอาจเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของ “ทักษิณ”
พี่ชาย ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปูทางในต่างแดน

 

นายกฯ คนที่ 30 – นายเศรษฐา ทวีสิน แม้ดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน เนื่องจากถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งพ้นตำแหน่งก่อนครบ 1 ปี แต่ก็ถูกมองว่าเป็นนายกฯ ที่ “แอ็กทีฟ” ที่สุดคนหนึ่ง ด้วยภาพลักษณ์ทำงานไม่มีวันหยุด และสามารถ “วาร์ป” ไปหลายที่ในวันเดียว รวมถึงการเดินทางต่างประเทศที่ถี่มาก เพื่อเรียกความเชื่อมั่น ฟื้นความสัมพันธ์กับนานาชาติ หลังจากยุครัฐบาลทหารของ “3 ป.” เขาได้รับฉายาว่า “เซลส์แมนประเทศไทย” เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือน ส.ค. 2566 ก็เริ่มภารกิจทันที เช่น การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 (22 ก.ย. 66) และเดินทางเพื่อเจรจา ดึงดูดนักลงทุนใน 14 ประเทศ ภายใน 6 เดือนแรก โดยเดือน ต.ค. 66 เพียงเดือนเดียว ไปเยือน 7 ประเทศ ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 เดินทางไปแล้ว 10 ประเทศ

 

นายกฯ คนที่ 31 – น.ส. แพทองธาร ชินวัตร สำหรับ “แพทองธาร” นายกฯ คนปัจจุบัน มีข้อสังเกตจากการเดินทางไปอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่ม EU ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเจรจา แก้ปัญหา “ภาษีสหรัฐ” หรือไม่ โดยหลังกลับถึงไทยในบ่ายวันที่ 25 พ.ค. ก็ต้องบินไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่าง 26–27 พ.ค.

 

โดยข้อมูลพบว่า หลังรับตำแหน่งจาก “เศรษฐา” “นายกอิ๊งค์” ได้เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ในฐานะนายกฯ คนที่ 31 เพื่อร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ครั้งที่ 3 วันที่ 2–4 ต.ค. 67 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์

 

ต่อมา ไปร่วมประชุมอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 ระหว่าง 8–11 ต.ค. 67 ที่ สปป.ลาว จากนั้น 10–18 พ.ย. 67 เดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเปรู โดยแวะสหรัฐฯ (ลอสแอนเจลิส) เพื่อประชุมและพบปะหน่วยงานไทยในสหรัฐ รวมถึงร่วมกิจกรรมกับชุมชนไทย ต้นปี 2568 ได้เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการระหว่าง 5–8 ก.พ. โดยได้พบผู้นำระดับสูงของจีนถึง 3 คน ได้แก่ ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง”, ประธานสภาประชาชน “จ้าว เล่อจี้” และนายกรัฐมนตรี “หลี่ เฉียง” อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

 

แม้เคยอ้างว่าสหรัฐได้นัดหมาย “ทีมไทยแลนด์” ไปเจรจาเรื่อง “กำแพงภาษี” วันที่ 23 เม.ย. แต่ท้ายที่สุดกลับไม่มีการเดินทางใด ๆ เกิดขึ้น ในขณะที่มีรายงานว่า “สารัชถ์ รัตนาวดี” ผู้บริหารกลัฟ
ได้พบ “ทรัมป์” ที่มาเลเซีย แต่ “นายกอิ๊งค์” กลับไปปรากฏตัวที่อังกฤษแทน.

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews