ทองขึ้น จังหวะดี 58,000
เร้าใจจริงๆสำหรับราคาทองคำที่ล่าสุดยังคงยืนเหนือ 5 หมื่นบาทต่อบาททองคำ ท่ามกลางการเจรจากันการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เข้มข้น
โดย ซีอีโอ วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล “นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” มองว่า การเจรจาทางการค้าไม่อาจกลับมาสงบลงได้ทุกประเทศทั่วโลกในระยะเวลาสั้นๆ และหากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับจีน ไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะกลับมากระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง โดยแม้ว่าปีนี้ทองคำจะเคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แล้ว แต่มองว่าเมื่อจบรอบการพักฐาน จะมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบได้อีกครั้ง
และหากการปรับตัวขึ้นครั้งถัดไปสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ได้ จะมีเป้าหมายในปีนี้ที่ 3,600-3,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนทองคำแท่งในประเทศหากผ่าน 54,400 บาทต่อบาททองคำได้ จะมีโอกาส ขึ้นทดสอบเป้าหมายระยะยาวที่ 56,000-57,500 บาทต่อบาททองคำ
ขณะที่ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ช่วงนี้ราคาทอง มีความผันผวนมาก โดยราคาทองในประเทศ ปรับขึ้นลงวันละหลายรอบ เนื่องจากกองทุนเทขายทำกำไร หลังมีข่าวเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯเกิดขึ้น ซึ่งถ้ามองในระยะยาว เชื่อว่า ราคาทองยังคงเป็นขาขึ้น เป้าหมาย Gold Spot 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองไทยมองไว้ที่ 58,000 บาทต่อบาททองคำ
และเมื่อถามถึงกลยุทธ์การลงทุนทองคำในช่วงนี้ ต้องวางแผนการลงทุนอย่างไร “นายจิตติ” กล่าวว่า ถือเป็นจังหวะดีที่จะซื้อเก็บ แต่ถ้ากู้เงินมาเก็งกำไระยะสั้น ข้อนี้ต้องระวัง
สำหรับภาพรวมราคาทองคำในประเทศในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวนเป็นอย่างมาก โดยวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568 ราคาทองเปลี่ยนแปลงมากถึง 33 ครั้ง ขณะที่ “เอ็มทีเอส โกลด์” ระบุในบทวิคราะห์เมื่อ วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม ให้จับตาข่าวเรื่องการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนที่สวิตเซอร์แลนด์อย่างใกล้ชิด และเน้นยํ้าให้นักลงทุนยังคงใช้ความระมัดระวังสูง แนะนําให้เข้าเร็วออกเร็ว เพราะเนื้อข่าวส่งผลกระทบ ต่อราคาทองคําในขณะนี้
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาการค้า ล่าสุด ประธานาธิบดี “ทรัมป์” ประกาศว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทางการ ค้ากับสหราชอาณาจักร ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นข้อตกลงฉบับแรกที่สหรัฐทำกับประเทศคู่ค้า นับตั้งแต่ที่ ประธานาธิบดี “ทรัมป์” ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในเดือนเมษายน 2568
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
