เปิดหน้า “ทีม3หมอ & 12ข้าราชการ” ช่วย “คนชั้น14”
กรณี“แพทยสภา”ลงมติเห็นชอบตามมติ “อนุกรรมการสอบสวน” ให้ลงโทษ “3แพทย์” จาก “โรงพยาบาลราชทัณฑ์” และ “แพทย์”จาก “โรงพยาบาลตำรวจ” ฐาน “ประพฤติผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์”กรณีชั้น 14” ถูกจับตาเป็น “จุดทะลุทะลวง”อันสำคัญ นำไปสู่ “ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง”ในปีนี้ เพราะกรณีนี้ จะไปเกี่ยวข้องกับการ ไต่สวนของ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”เรื่องที่จำเลยคือ “นายทักษิณ ชินวัตร” ถูกจำคุกตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้วหรือไม่ โดยศาลอาจจะเรียก “รายงานการสอบสวนนี้” ไปประกอบการไต่สวนและอาจเรียก “รายงานผลการสอบสวน”ของ “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน”(กสม.)ในเรื่องนี้ ที่เคยส่งให้กับ “ป.ป.ช”ไปเป็น “หลักการ”ในการไต่สวน
ที่ในชั้น ปปช.ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีมติให้ไต่สวน “เจ้าหน้าที่รัฐ 12 คน” ฐาน ร่วมกันเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ ไม่ต้องถูกคุมขัง ในจำนวนนี้มีทั้ง อธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดี, ผู้บัญชาการเรือนจำ, แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ, แพทย์เจ้าของไข้, พยาบาลเวร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่เกี่ยวพันโดยตรงกับการตัดสินใจ และดูแลการอยู่โรงพยาบาลของ “ทักษิณ”ที่ส่วนหนึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับขั้นตอนต่อไป เมื่อพบว่า ผลสอบ ของแพทยสภาและการไต่สวนของศาลฎีกา ไปในทิศทางเดียวกัน ป.ป.ช.จะมีฐานพยานหลักฐานชัดเจนในการ “ชี้มูลความผิด” และหากมีมติ “ส่งฟ้อง”กระบวนการเอาผิดใน “ศาลอาญาคดีทุจริตฯ” ก็จะเริ่มต้นทันที ทำให้น่าสนใจไปส่องบรรดา“ตัวละคร”ในส่วนของบรรดา“ทีมหมอ”นอกจาก “3หมอ”ที่ “แพทยสภา” มีมติลงโทษตลอดไปจนถึง 12 ข้าราชการ ที่ปปช.มีมติไต่สวน
โดยในส่วนของ “ทีม3หมอ”ที่ถูก “แพทยสภา”สั่งฟันนั้น แม้จะไม่มีการเปิดชื่อจาก “แพทยสภา”ว่าประกอบ ไปด้วยใครบ้าง แต่หาก “ถอดรหัส”จาก มติให้ไต่สวนของปปช. และถอดรหัสจากผลการสอบของ กสม.รวมถึง จากอนุกรรมการแพทยสภาฯ และจากปากคำของผู้เกี่ยวข้องรวมถึง “หน้าข่าว”จะมี “หมอ”ที่เกี่ยวข้อง6คน ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์และ โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่ “แพทย์ใหญ่”จนถึง “แพทย์เจ้าของไข้” ที่ตามรายงานของ ปปช.มีการระบุ ในส่วนของ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 2 ราย ถูกระบุว่ามี บทบาทหน้าที่ความเกี่ยวข้อง คือ
1.“แพทย์หญิง ร.เรือ” ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่
2. “นายแพทย์ ว.แหวน” ผู้บริหารทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในฐานะผู้กำกับดูแล
ขณะที่ในส่วนของ โรงพยาบาลตำรวจมี 4 ราย ที่มีบทบาทหน้าที่ความเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย “พลตำรวจโท ส.เสือ” เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่, “พลตำรวจโท ท.ทหาร”ผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ “พลตำรวจตรี ส.เสือ” แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะผู้ออกใบความเห็นแพทย์ และ “พันตำรวจเอก ช.ช้าง ” นายแพทย์ แพทย์เจ้าของไข้ และผู้ออกใบความเห็นแพทย์
กระนั้นในส่วนข้าราชการ ในระดับบริหาร ที่ถูกระบุ อาจอยู่ใน 12 ราย ที่เกี่ยวข้องจากบทบาทหน้าที่ และ เคยปรากฏออกมาชี้แจงข่าว ก่อนหน้านี้ ในส่วนของ กรมราชทัณฑ์ถถูกระบุมี 3 ราย มีบทบาทหน้าที่ความเกี่ยวข้อง คือ “นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ “นายชาญ วชิรเดช” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ “นายสิทธิ สุธีวงศ์” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ทั้ง3 ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการ เป็นผู้อนุมัติให้ “คนชั้น14”ไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจในแต่ละช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง
โดยทั้งหมด ถูกจับตาจะเป็น “ตัวแปรสำคัญ”ในคดีที่จะถูก “ตัดตอน”หรือจะถูกสาวโยงไปถึง “คนสั่งการ” หรือบรรดา“รัฐมนตรี”กระทรวง ที่กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็น “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง”รมว.ยุติธรรม “หรือแม้แต่ “นายกอิ๊งค์-แพทองธาร”ที่กำกับดูแลตำรวจ ที่เพิ่งหลุดปาก จนทำท่าว่าจะลำบากหลังจากนี้ จากการไปยืนยันว่า“ทักษิณ”ป่วยหนักวิกฤติจริงจนต้อง ไปรักษาตัวที่ “ชั้น14”โรงพยาบาลตำรวจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
