Home
|
Video

“พอล แชมเบอร์ส” Vsไอโอทหาร เจ๊จุก คลอง3

ตัดแทรกในจังหวะการเมืองกำลังถก ว่าด้วยเรื่องผลกระทบ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับจบ “คดีคนชั้น 14” ที่ต้องรอดูท่าทีของ“ทักษิณ” ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ว่าจะเตรียมทางหนีทีไล่อย่างไรกับเรื่องนี้ พลันก็มี2ประเด็นที่ เชื่อมโยงกัน ที่หลายฝ่ายทางการเมืองและฝ่ายความมั่นคง สนใจติดตาม กับ ปม อัยการ สั่งไม่ฟ้อง คดีมี.112“พอล แชมเบอร์ส” นักวิชาการชาวอเมริกาจาก มหาวิทยาลัยนเรศวร กับปม ผังไอโอกองทัพ ที่เคยถูกนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่กลับมาปรากฏใน ในการซักถามฝ่ายกองทัพใน ที่ประชุม ของกรรมาธิการความมั่นคงฯ เมื่อวาน(1/5/68)

 

โดยประเด็นของ“นายพอล”นั้น โฆษกอัยการสูงสุด มีการให้ข่าเมื่อวาน ว่า อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้อง ในคดีอาญามาตรา 112 และพรบ.คอมพิวเตอร์ ตามมติคณะทำงานกลาง ที่เห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ และมีการยื่นศาลขอปล่อยตัว หลังจากที่เขาถูกดำเนินคดีโดย มีเจ้าหน้าที่จากกอ.รมน.ภาค3 ไปแจ้งความดำเนินคดี หลังจากนั้น ได้พอล ได้ถูกควบคุมตัวขณะไปมอบตัวกับตำรวจ และมีการควบคุมตัว รวมถึงการไปตรวจค้นที่มหาวิทยาลัย

ซึ่งคดีนี้เป็นหนึ่งในสองประเด็น นอกจากเรื่องส่งตัว40ชาวอุยกูร์กลับจีน เชื่อมโยงไปสู่ท่าที ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และโยงไปสู่เรื่องการเจรจาภาษีทรัมป์ ที่มีการส่งสัญญาณจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของสหรัฐและเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้า ต้นเรื่องมีการอ้างถึงการโพสต์จาก บุคคลในกลุ่มอนุรักษ์นิยมบางท่าน ที่โยงเข้ากับประเด็นหัวเรื่องการสัมมนาออนไลน์ของอาจารย์พอล

 

ในขณะที่ประเด็นการชี้แจง ไอโอ ของตัวแทนกองทัพ ต่อกรรมาธิการความมั่นคงเมื่อวาน ก็น่าสนใจ อย่างที่“โรม” โพสต์FB สรุปที่ประชุม ทำนอง ปม io ‘กอ.รมน.’ ยอมรับเอกสาร สส.พรรคเด็ก ประชาชน อภิปรายเป็นเอกสารจริง แต่โต้แย้งว่า การจัดเนื้อหาหมวดหมู่เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ที่กมธ.ติงว่าไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว แต่ดูจงใจใส่ร้าย และระบุว่ามีการยอมรับจาก ทบ. ว่ามี‘คณะทำงานพิเศษ ทบ.’ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ยืนยันไม่มีปฏิบัติการไอโอ ใส่ร้ายป้ายสี-สร้างความแตกแยก

 

ที่น่าสนใจเอกสารที่กอ.รมน. ได้มีการประเมินสถานการณ์ความมั่นคง พบว่ามีการสรุปข้อมูลข่าวสารและการกระจาย ต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหาบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการจัดหมวดหมู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ว่าเป็นกลุ่มที่แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง รวมไปถึงมีการจัดหมวดหมู่ในกลุ่มต่อต้านสถาบัน อย่างเพจพรรคประชาชน ก็ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันด้วยเช่นกัน

 

ไม่แต่เท่านั้น ในที่ประชุมยังมีการถกถึง “ผังกระบวนการสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียฝ่ายสนับสนุน” ที่ถูกแบ่งโครงสร้างออกมาเป็น 5 กลุ่มคือ กลุ่มจุดประเด็น กลุ่มสร้างกระแส กลุ่มแพร่กระจาย กลุ่มนักวิชาการ และกลุ่มองค์กร ซึ่งในแต่ละกลุ่มนั้น บางคน บางองค์กร จะมีการวงสีเขียวไว้แสดงว่าเป็นบัญชีที่สามารถติดต่อประสานให้โพสต์ตามที่ กองทัพ ต้องการได้

 

โดย“โรม”โพสต์FBด้วยว่า บัญชีไอโอที่อาจมีความเชื่อมโยงกับกองทัพหรือตำรวจ เช่น บัญชีเจ๊จุกคลองสาม ที่มีการรายงานจากประเทศแคนนาดาว่า เป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐของไทย และตัวบัญชีดังกล่าวก็มีหลักฐานว่า เคยแสดงโลโก้ของกองทัพบกขึ้นแสดงในหน้าจอ แต่กองทัพบกยืนยันว่า ไม่ใช่หน่วยงานโดยตรง แต่อาจเป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลออกไปยังบัญชีที่กองทัพบอกว่าเป็นเพียงกลุ่มที่มีแนวคิดไปทิศทางเดียวกัน และสนับสนุนงานของกองทัพ แต่บุคคลเหล่านี้กลับนำไปใช้โจมตีทางการเมืองและสร้างความเกลียดชังในสังคม

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube