fbpx
Home
|
ข่าว

โควิด3ไวเก่งทนกว่าลุง

โควิด3ไวเก่งทนกว่าลุง (click ดูวิดีโอ)

@ยอดโควิดภาค3ที่ทะลุจากร้อยเป็นหลักพันตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ วันนี้(19เม.ย.)ยังพอค่อยยังชั่ว กับการกลับมาเปิดทำการ ผู้คนกลับมาจากหยุดยาวสงกรานต์ ทำงานวันแรก ที่”ลุงทำเนียบฯ”ขอไว้ให้ทั้งส่วนราชการ และ เอกชน เวิร์กฟอร์มโฮม ทำงานอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติกันอีกยก โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอยู่ที่ 1,390  สะสม 43,742 รักษาในโรงพยาบาล 14,851 หลังเมื่อวานยอดพุ่งจาก 1,500 กว่าเป็น 1,767 เพราะเกิดคลัสเตอร์ใหม่หลายจุด แม้วันก่อนรัฐบาลโดย”ลุงทำเนียบฯ”จะออกทีวีเฉพาะกิจ ประกาศใช้มาตรการ”กึ่งล็อกดาวน์”ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด ไปแล้ว แต่ก็ยังหยุด”ความแรง-เร็วเก่ง-ทน”ของเชื้อไม่ได้ ยอดติดเชื้อเมื่อวาน(18เม.ย.)ยังพุ่งปรี๊ด แถมเริ่มขยายสู่โรงเรียนกลุ่มเด็กเล็กแบบไม่แสดงอาการ และเริ่มมีหมอหลายคนกังวลเรื่องความ ล่าช้าในการรักษา รวมถึงการฉีดป้องกัน จะทำให้เกิด”การกลายพันธุ์”เหมือนหลายประเทศที่โคม่า

@ที่ก็รวมถึง ประเด็น “โรงพยาบาลสนาม”ในการรองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทุกวันจน 4 โรงพยาลหลักของรัฐในส่วนกลางอย่าง จุฬาฯ รามาฯ ศิริราช ราชวิถี แน่นและพีคจนต้องขอคนไข้โรคอื่นหลีกทางให้”โควิด”ก่อนอย่างเพิ่งมาโรงยาบาลช่วงนี้ โดยประเด็น”เตียงไม่พอ”เริ่มมีการพูดถึงมากในหลายวงประชุม แบบที่ว่าแม้กองทัพจะเข้ามาช่วยจัดการก็ยังไม่พอเอกชนต้องเข้ามาช่วยเพราะมีแนวโน้มจำนวนผู้ต้องเข้ารับการรักษาหรือดูอาการจะเพิ่มมากไปกว่า 14,851

@ที่ยังไม่นับรวมกับประเด็น”คู่ขนาน”อย่าง ยาที่ใช้รักษาโควิด “ยาฟาวิพิราเวียร์”หรือ”อาวิแกน”ที่หมอบอกว่าเหลือในสต๊อกไม่ถึง4แสนเม็ด ในขณะที่ชีวิตจริง”หมอ”ต้องใช้ถึงวันละ 2 หมื่นเม็ด เท่ากับเหลือใช้ได้ไม่เกิดน20วันจากยอดผู้ติดเชื้อเวลานี้ที่ยอดยังพุ่งวันละพันอัพ ที่แม้กำลังเร่งนำเข้าอีก5แสนเม็ดปลายเดือนเม.ย.แต่ก็ยังน่าห่วงเพราะเท่ากับใช้ได้แค่อีก 1 เดือน

@ที่ประเด็นคนไข้แน่น หมอ-พยาบาลโหลดหนัก เริ่มปรากฏเป็นปัญหา ยิ่งมีบางโรงพยาบาลบุคลากรติดโควิดจากคนไข้ ต้องกักตัวทั้งหวอด ก็ยิ่งลดทอนกำลัง จนหลายโรงพยาบาลประกาศว่าใช้กำลังเต็มศักยภาพแล้วในการรับมือการรักษา ที่แน่นอนย่อมส่งผลกระทบกับประเด็นการจัดการเรื่อง”วัคซีนโควิด”ที่”ลุงตู่”เพิ่งกัน”หมอหนู”ออกจากวงกรรมการจัดหาวัคซีนที่กำลังเร่งจัดหาเจ้าอื่นๆนอกจาก ซิโนแวค, แอสตร้าฯ

@เรียกว่ายามนี้”หน้างาน”หมอ หากจะให้มือหนึ่ง ไล่ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เร็วกว่า”โควิด”คือวันละ 3 แสนโดส เพื่อทันการกลายพันธุ์ ในขณะ มืออีกข้างหนึ่งต้องตัดยอด รักษาผู้ติดเชื้อที่พุ่งทุกวัน ดูทรงแล้วยาก ทำให้ต้องหันมาพึ่ง”ลุงทำเนียบฯ”ที่ตีเป็น “โหมดความมั่นคง”เรียก”บิ๊กแก้ว”ผบ.สส. หัวหน้า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) มาหารือ ทั้งการตั้งโรงพยาบาลสนาม สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข และการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด รวมถึง การดูแล สถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน ที่หนแรกจาก”อู๋ฮั่น”จีน หนต่อมา ภาค2 เชื้อนำเข้าจากเมียนมา มาทีมหาชัย ส่วนภาค3 นำเข้าจากกัมพูชาที่มาจากสายพันธ์อังกฤษ มาแพร่ที่”คริสตัล-เอมเมอรัล”ทองหล่อ ที่ว่ากันว่ามาจากลูกไฮโซ5-6คน ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงพนันออนไลน์ที่ตั้งเซฟเวอร์ในกัมพูชา

@เรียกว่าความชุลมุนวุ่นวาย ในการจัดการกับโคภาค3ของ”ลุงทำเนียบฯ”จากปัญหาประเดประดัง ทำให้”ธนาธร”ได้จังหวะออกมาโชว์เหนือออกมาแนะนำ “4 เปลี่ยน ในการ สู้วิกฤติโควิดละลอกใหม่”(17เม.ย.)  โดยเสนอ

  1. เปลี่ยนการจัดหาวัคซีน ที่เห็นด้วยกับการไม่จำกัด2-3ยี่ห้อ
  2. เปลี่ยนการกระจายวัคซีน ที่ธนาธรบอกว่ายังไม่มีประสิทธิภาพยังฉีดได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะรัฐบาลไม่มีแผนการเตรียมความพร้อมไม่มีเป้าหมายวันเดือนปีที่ชัดเพื่อให้ภาคสังคมเข้ามาช่วยได้
  3. เปลี่ยนมาตรการเยียวยา ที่ยังไม่มีการคิดแต่ใช้โจทย์เก่า
  4. เปลี่ยนทัศนคติผู้บริหาร ที่ยังมองประชาชนเป็นภาระ ต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ประชาชนไม่ใช่ภาระ การบริหารจัดการต้องเท่าเทียมกัน ข้อมูลต้องเปิดเผย และมีความจริงจัง จริงใจในการดูแลประชาชน ในภาวะที่ คนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะพาประชาชนไปรอด

@ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อถัดจากนี้ ว่า”ลุงทำเนียบฯ”จะสามารถจัดการสถานการณ์”หน้างาน” ที่กดดันท้าทายทั้งการตัดสินใจ ในภาวะ แข่งขันด้วยเวลา กับการระบาดของโควิดภาค3 รอบนี้ที่ทั้งเร็วแรงและทนทานนาน ที่ชัดเจนแล้วว่า ปลายทางจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจแน่ อย่างไร และระหว่าง”โควิด”กับ”ลุงทำเนียบฯ”ที่เริ่มถูกฝ่ายค้าน”ชี้เป้า”ให้”ทัวร์ลง”ใครจะอยู่ทนนานกว่ากันจากนี้.

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube