fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

นายกฯ ลงพื้นที่ EEC เรียกเชื่อมั่น พร้อมรับลงทุน

ในวันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางด้วยรถไฟลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญ ในพื้นที่ EEC สร้างความมั่นใจว่าจะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ไม่กระทบต่อภาคการผลิตและการลงทุน

 

 

 

 

 

 

โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม รวมทั้ง นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ) นายสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษาเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการจ.ชลบุรี และระยอง โดยเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษ 995 ออกจากชานชลาที่5 สถานีหัวลำโพง เวลา 08.30 น.

 

 

 

ไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง อ.ศรีราชา เพื่อตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง และพูดคุยประเด็นศักยภาพของพื้นที่สำหรับการรองรับสินค้าอุตสาหกรรมหนักในการนำเข้าและส่งออกของท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งในระหว่างการเดินทางนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนพร้อมกับโดยระบุว่า ได้มีโอกาสประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง?บนขบวนรถไฟ

 

 

ได้รับรายงานหลายเรื่อง โดย ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ AOT ได้รายงานว่า แม้จะได้รับแรงผลักดันมาจากนโยบายวีซ่าฟรี แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทย ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 60-70 จากปี 2562 จึงยังต้องช่วยกันผลักดันอยู่

 

 

 

นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เรื่องการปรับมาใช้เครื่องในการตรวจผู้โดยสารขาออก โดยตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป จะใช้เครื่อง และ กำลังคนผสมกัน โดยให้ความมั่นใจว่า เครื่องดังกล่าว สามารถดักจับได้ทั้งอาชญากร ผู้ที่พำนักอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถ้าหากตกลงกันจนได้ข้อสรุปภายในปีนี้ คาดว่าในเดือนกรกฎาคม 2567 จะติดตั้งอุปกรณ์เสร็จ และสามารถปรับมาใช้เครื่องตรวจผู้โดยสารขาออกแทนกำลังคนได้ทั้งหมด

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ยังรับรายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ขณะนี้พบว่ามีปัญหาความแออัด จึงต้องการเร่งรัดรัดก่อสร้าง เพื่อสร้างความไว้วางใจให้นักลงทุน โดยนายกรัฐมนตรีอยากให้การท่าเรือแถลงผลความคืบหน้าการสร้างท่าเทียบเรือแหลมฉบังในช่วงปลายสัปดาห์หน้าว่า ที่ผ่านมามีความล่าช้าเกิดขึ้นแต่ปัจจุบัน มีแผนงานในเชิงบูรณาการว่า จะสามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนได้ ซึ่งหากสามารถขยายพื้นที่รองรับตู้สินค้าได้ 18 ล้านตู้ ก็จะสามารถทำให้ไทยอยู่ในลำดับที่ไม่เกิน 15 ของโลก

 

 

 

โดยสื่อมวลชนถามนายกรัฐมนตรีว่า สนุกหรือไม่ นายกฯ บอกว่า การเดินทางมาอย่างนี้ดีมาก ได้นั่งคุยกับหน่วยงานทำให้ได้งานมากขึ้น เมื่อถามว่าประชาชนคาดหวังกับนายกรัฐมนตรีที่มาจากภาคธุรกิจในเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้อง มีการวางเป้าไว้อย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหลายปัจจัย อย่างเรื่อง EEC คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่ใครที่จะมาสร้างโรงงานใหม่ๆ ก็ใช้เวลาไม่ใช่แค่ 5 เดือน 6 เดือน แต่ใช้ระยะเวลาเป็นปี ซึ่งหากเรามีความชัดเจนในทุกๆ เรื่อง นักลงทุนก็จะมีกำลังใจและเชื่อมั่นมากขึ้น

 

 

 

โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ EEC จะต้องสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจ ทั้งการเชื่อมต่อ ระบบราง ระบบขนส่งทางน้ำและทางอากาศ รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีหลายองค์ประกอบกัน ก่อนที่จะเน้นย้ำว่า ต้องสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจและสามารถทำได้จริง ไม่ใช่สร้างวาทกรรม ว่ามี EEC แต่ต้องทราบว่ามันติดปัญหาอะไรบ้าง นอกจากนี้หากมีการตั้งคณะกรรมการย่อยขึ้นมา ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่าจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ โดยจะมีหน้าที่ทลายอุปสรรคปัญหาต่างๆ สะดวกมากขึ้น

 

 

 

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำให้พื้นที่ EEC และเยี่ยมชมศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริด้วยก่อนจะตรวจเยี่ยม โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2(WHA ESIE2) อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube