ถือว่าใช้เวลานานเกือบ 2 ปี กับการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีคดียืดเยื้อ
นับตั้งแต่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนระหว่างรับและเอกชน (พีพีพี) เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 นำมาสู่ความยาวนาน จากการที่คณะกรรมการฯ ปรับหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนกลางคัน ก่อนประกาศล้มประมูล เป็นเหตุให้เอกชนยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อตรวจสอบ และมีการไต่สวน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 850/2564 หมายเลขแดงที่ 1455/2565 ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส เป็นผู้ฟ้องคดี และคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ 2 เป็นผู้ถูกฟ้องคดี
ซึ่งคำพิพากษาศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ดังกล่าว และเพิกถอนประกาศของ รฟม.
เรื่อง ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ มีมติ และตั้งแต่วันที่ รฟม. มีประกาศดังกล่าว
เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงหลังจากศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา แต่หากพิจารณาตามกฎหมายแล้ว ฝากฝังของ รฟม.ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน ซึ่งเรื่องนี้ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.ได้ออกมาบอกว่า “พร้อมที่จะยื่นอุทธรณ์ และยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าประกวดราคาครั้งใหม่ โดยมีกำหนดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะเปิดซองข้อเสนอในวันที่ 1 สิงหาคม 2565
ขณะที่ กระทรวงคมนาคม ผู้กำกับดูแล การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. อย่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานจากนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.แล้ว และได้มีข้อสั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบโดยยึดหลักความถูกต้องตามกฎหมาย เน้นเรื่องความโปร่งใสและทุกขั้นตอนต้องสามารถตรวจสอบและตอบคำถามชี้แจงได้ทุกประเด็น
ส่วน รฟม.จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองภายในเวลาที่ทางศาลฯ กำหนด หรือภายใน 30 วัน สามารถทำได้ กระทรวงไม่ขัดข้อง หากพิจารณารอบคอบและทำตามข้อกฎหมาย และเบื้องต้น จากการฟังคำพิพากษา พบว่าไม่ได้มีคำสั่งให้ห้ามการประมูลในรอบใหม่นี้แต่อย่างใด รฟม.จึงสามารถที่จะเดินหน้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตามแผนที่วางไว้
ถือว่าเรื่องนี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง แต่ก็ยังมีช่องทางและข้อกฎหมายที่ทำให้รฟม.นั้นสามารถเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มด้วยการเปิดประมูลใหม่ได้ ดังนั้นต้องรอลุ้นว่ารฟม.จะยื่นอุทธรณ์และเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตามแผนที่วางไว้ได้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
