เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระทรวงหมาดไทยอีกครั้ง เมื่อ 15 สิงหาคม 2564 ผู้ว่าฯปู “วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” พ่อเมืองสมุทรสาครโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กขอยื่นลาออกจากราชการ เนื่องจากปัญหาสุขภาพหลังเคยติดโควิด-19 เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทบต่อการทำงาน พร้อมกับปล่อยวลีเด็ดคือ “ยามดีใช้ ยามไข้(ไม่)รักษา” ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “สู้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ พอแล้ว จบแล้ว”
จากนั้น 16 สิงหาคม 2564 ปรากฏหนังสือลาออกของ ผู้ว่าฯปู ว่อนโชเชียล กลายเป็นไฟลุกลาม ร้อนถึงเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาออกตัวล้อฟรีว่า ได้เคยได้แจ้งปลัดมหาดไทย ว่าจะสามารถย้ายนายวีระศักดิ์ออกจากสมุทรสาครได้หรือไม่ เพราะมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งปลัดมหาดไทยจะพูดคุยกับนายวีระศักดิ์เพื่อขอให้ทำงานก่อน ยืนยันว่ายังสามารถโยกย้ายได้ในลอต 2 เร็วๆนี้
แน่นอนว่า การให้สัมภาษณ์ของบิ๊กคลองหลอด ช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงได้บ้าง แต่เมื่อย้อนไปอ่านถ้อยคำระหว่างบรรทัดที่ ผู้ว่าฯปู โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก เมื่อ 15 สิงหาคม 2564 จะพบข้อความหนึ่งที่น่าสนใจว่า คือ “หลงคิดมานานว่า การจัดคนลงตำแหน่ง เป็นเรื่องของกระทรวงเป็นหลัก หรือว่าผมไม่มีสีของสิงห์ใดๆ นอกจากสีกากีของเครื่องแบบ สีที่ผมพยายามใช้เดินตามรอยพระบาทในหลวง ร.9 มาตลอดชีวิตการทำงาน”
ถอดรหัสได้ว่า ผู้ว่าฯปู มีความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าตนเอง “ไม่มีสีของสิงห์ใดๆ” จึงไม่สามารถได้ย้ายตามที่ใจประสงค์ ซึ่งเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะผู้ว่าฯปู ไม่ได้อยู่ในสังกัด สิงห์แดง สิงห์ดำ สิงห์ขาว หรือ สิงห์ทอง เพราะ เขาจบจากศิลปศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา จึงเป็นสิงห์ไร้สังกัด ที่อำนาจต่อรองใดๆ ย่อมเจือจางลงอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้แล้ว ผู้ว่าฯปู ยังระบุอีก ว่า “ถึงผมอยากไปสุพรรณบุรี แต่นักการเมืองเขาไม่ยอมรับ(ซึ่งผมไม่รู้ว่าหมายถึงใคร) ผมไปไม่ได้แน่” ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะเมื่อย้อนดูประวัติแล้วพบว่าเขารับราชการเมื่อปี 2526 ในตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แล้วไต่เต้าขึ้นชั้นเป็นนายอำเภอ ปลัดจังหวัด และรองผู้ว่าฯที่สุพรรณบุรี ก่อนจะข้ามห้วยไปขึ้นผู้ว่าฯที่พิจิตร ต่อด้วย ศรีสะเกษ และสมุทรสาคร ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก “เอก ประทุมรัตน์” โพสต์เรื่องวงใน ไว้น่าสนใจว่า “อาเจ็กปูรับราชการอยู่ใน จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่นายอำเภอ จนเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พูดง่ายๆ ถูกวางตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี แต่บรรหารถึงแก่อนิจกรรมไปเสียก่อน อาเจ็กปูจึงได้เป็นผู้ว่าฯพิจิตร โดยวันที่ย้ายไปพิจิตรมีชาวสุพรรณบุรีนับพันคนตามไปส่งถึงจวนผู้ว่าฯ ที่ขาดไม่ได้คือ จองชัย เที่ยงธรรม และสมศักดิ์ ปริศนานันท์กุล ได้ร่วมขบวนไปส่งด้วย…เมื่อผู้ว่าฯปู ย้ายจากพิจิตร ไปอยู่ศรีสะเกษ ก็หวังที่จะกลับสุพรรณบุรี แต่บิ๊กมหาดไทยก็ส่งผู้ว่าฯปู ไปอยู่สมุทรสาคร”
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯปู จัดเป็นคนสาธารณะที่มีผู้คนชื่นชมมาก เพราะเลือกยืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอมา อย่างในวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯโพสต์ข้อความว่า “ถ้าระเบียบทำให้ประชาชนต้องตาย เพราะไม่มีที่กักตัว โปรดจงก้าวข้ามระเบียบนั้น แล้วบอกว่าต้องทำ เพราะผมเป็นคนสั่งเอง ให้มันรู้ไปว่า ระเบียบ กับ ความตาย อะไรสำคัญกว่า”
ทั้งนี้ หลังหนังสือลาออกผู้ว่าฯปูโผล่โซเชียลวันเดียว ในวันรุ่งขึ้น 17 ส.ค.2564 ผู้ว่าวีระศักดิ์ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป โดยระบุว่าอยากให้โฟกัสการทำงานแก้ไขปัญหาโควิดมากกว่า ยืนยันไม่เคยย่อท้อต่อการทำงาน แต่ท้อสภาพร่างกาย ที่สุดแล้วต้องติดตามว่าเส้นทางราชการของผู้ว่าคนนี้จะไปบรรจบลงที่ไหน และอย่างไร?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
