มัดรวม 7 สว.ตัวตึง ตีโต้ถล่ม “ทวี-DSI” สอบฮั้ว
ก่อนที่บอร์ด DSI จะพิจารณารับคดีฮั้วเลือก สว. อั้งยี่ซ่องโจร เป็นคดีพิเศษหรือไม่ อีกครั้งในวันนี้ หลังจากครั้งก่อนไม่มีการลงมติ กลุ่ม สว.ปัจจุบัน ที่ถูกเรียกเป็น สว.สีน้ำเงินก็มีความเคลื่อนไหวตอบโต้ เอาคืนอย่างต่อเนื่อง ในทุกช่องทางที่ตัวเองมีสิทธิ์ และมีอำนาจหน้าที่ในการเอาคืน โดยพุ่งเป้าไปที่ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรียุติธรรม และ “พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” อธิบดี ดีเอสไอ เป็นหลัก ซึ่งการขับเคลื่อนเอาคืนของกลุ่ม สว. มี 7 ตัวตึงในการออกหน้า
เริ่มจากคนแรก “มงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา สว.จากบุรีรัมย์ กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคงเคยอดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ และอดีตอธิบดีกรมการปกครอง ถูกมองเป็นสายตรงจาก “ครูใหญ่-เนวิน ชิดชอบ”มาบริหารจัดการ สว.สีน้ำเงิน โดยมีบทบาทสำคัญในการตีโต้ดีเอสไอ ครั้งนี้ คือการ ยื่น ป.ป.ช.สอบ “ทวี และ ยุทธนา” ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จากการกล่าวหา ฮั้ว สว. เข้าข่ายผิดอั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน
คนที่ 2 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นสว.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง จากสุราษฏร์ธานี เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นเพื่อนรัก “อนุทิน ชาญวีรกุล” มท.1คนปัจจุบันจากค่ายภูมิใจไทย โดยพล.อ.เกรียงไกร เป็นคนแรกของ สว.ที่มีการเคลื่อนไหว เพราะเป็นคนแรกที่นำแถลงตีโต้ ดีเอสไอ ระหว่างไปสัมนาที่หัวหิน พร้อมรวบรวมข้อมูลยื่นฟ้องภาครัฐ เอกชน กรณีดีเอสไปรับเรื่องฮั้วเลือกสว.เป็นคดีพิเศษ และเตรียมยื่นซักฟอก “พ.ต.อ.ทวี” ด้วย
คนที่ 3 นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มการสาธารณสุข จากจังหวัดขอนแก่น โดย”หมอเปมศักดิ์” พยายามตั้งกระทู้ถาม “ทวี” และ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการคดีพิเศษ ต่อประเด็นคดีฮั้วเลือก สว. แต่รัฐมนตรีทวี ติดภารกิจไม่สามารถมาตอบกระทู้ได้
คนที่ 4 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นเขยบุรีรัมย์ เคยรับราชการในภาคอีสานมาตลอด โดยประจำการที่บุรีรัมย์ร่วม 20 ปี จากผู้กำกับการ สภ.โนนสุวรรณ,นางรอง และขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด บุรีรัมย์ โดยในการตอบโต้ ดีเอสไอ ครั้งนี้ “สว.ฉัตรวรรษ” เป็นผู้เสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีเรื่องที่ รัฐมนตรียุติธรรม และ ดีเอสไอ สอบคดีฮั้วการเลือกสว. ในประเด็นอั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน เป็นประเด็นหลัก โดยชี้ชัดว่ากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ถูกครอบงำจากฝ่ายการเมือง และขอเปิดอภิปรายทั่วไป “พ.ต.อ.ทวี” ผิดมาตรฐานจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง
คนที่ 5 สว.ชินโชติ แสงสังข์ จากกลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างซึ่งมิใช่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงานหรืออื่นๆ โดย “สว.ชินโชต” เป็นหนึ่งใน ผู้อภิปรายญัตติของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ได้อย่างดุเดือด โดยระบุว่า ถ้าวันที่ 6 มี.ค.นี้ ดีเอสไอรับคดีเลือกสว.มาทำ แสดงว่า มีวาระซ่อนเร้น รับใช้กลุ่มบุคคล กลุ่มการเมือง เพราะการเลือกสว.ไม่ใช่หน้าที่ดีเอสไอ เป็นหน้าที่ของกกต. แม้ กกต.จะทำงานช้า ผิดพลาด ก็ต้องไปฟ้องเอาผิดกกต.ละเลยปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่มาร้องดีเอสไอ และมาตั้งข้อหาอังยี่ซ่องโจร
คนที่ 6 พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว.จากกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นอีก 1 คน ที่อภิปรายสนับสนุน ญัตติของ “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” ได้อย่างเห็นภาพว่าอัดอั้นแค่ไหนที่ถูกยัดเยียดข้อหา”อั้งยี่ซ่องโจร” พร้อมสวนกลับ “ทวี และดีเอสไอ เป็นมารผจญ และแนะนำให้ใช้ส่วนอื่นทำงานบ้าง ระวังใช้แต่ปาก ลิ้นมันจะพันคอ เตรียมเอาคืนโดยการฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
คนสุดท้าย นางอัจฉรพรรณ หอมรส สว.จากกลุ่ม 13 ผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม เป็นอีก 1 ในผู้อภิปรายสนับสนุนญัตติของ “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ” โดยกล่าวว่า การที่ดีเอสไอตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรต่อสว. ทำให้ประชาชนเข้าใจสว.ผิดเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งที่สว.มาอย่างถูกต้อง พร้อมยืนยัน กกต.ให้เขียนโพยเข้าห้องลงคะแนนได้ เพราะต้องกาหลายเบอร์ แต่ดีเอสไอกลับเลือกปฏิบัติ
ซึ่งทั้งหมดนี้คือการตอบโต้เล็กๆน้อยๆ จาก สว. ส่วนคดีนี้จะเดินหน้าไปในทิศทาง วันนี้ ต้องมาลุ้นกันว่า บอร์ดดีเอสไอ จะมีมติอย่างไร หลังรัฐมนตรียุติธรรม และดีเอสไอตกเป็นเป้า และโดนเอาคืนตามช่องทางของสภา และองค์กรอิสระแล้วนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





