ดับฝันพรรคส้ม ล่าชื่อถอดถอนประธาน ป.ป.ช.

 

 

 

 

จากกรณีคลิปวีดีโอ “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ประธาน ป.ป.ช.ป้ายแดง ไปพบกับ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา ที่บ้านพักส่วนตัว เมื่อปลายปี 67 โดยมีเนื้อหาตามที่ปรากฏ แต่มีการถกเถียงกันว่า ใครเป็นมือที่มองไม่เห็น นำคลิปนี้ออกมาปล่อย และปล่อยออกมาด้วยเหตุผลอะไร เป็นเกมการเมืองของฝ่ายใด ต้องการเลื่อยขาเก้าอี้ของใคร คำถามเหล่านี้ ล้วนมีคำตอบในตัวเอง และรอวันเวลาที่จะเปิดเผยความจริงออกมา

 

 

 

ซึ่งจากประเด็นนี้ก็ไปเข้าทางปืน ของ พรรคประชาชน ที่กำลังระส่ำอย่างหนัก จากการที่ ปปช. เรียก 44 อดีต สส.ก้าวไกล ซึ่งคือผู้บริหาร และแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาชน เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ผิดจริยธรรมร้ายแรง จาการเข้าชื่อเสนอแก้ไข มาตรา 112 ได้ตอบโต้กลับ จับเอาประเด็นคลิปฉาว มาล่ารายชื่อ ถอดถอนประธาน ปปช. คนใหม่ทันที ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ที่เปิดช่องให้ สมาชิกของทั้ง 2 สภา ทั้ง สส.และ สว. เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของรัฐสภา เพื่อถอดถอนประธาน ป.ป.ช.

 

“พริษฐ์ วัชรสินธุ” โฆษกพรรค ยืนยัน การตรวจสอบดังกล่าว ไม่ใช่การเอาคืน ปปช. จากกรณี 44 อดีต สส.ก้าวไกล แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ สส. ในการที่เข้าชื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ป้องกันผลประโยชน์ชาติ ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงมีพฤติการณ์ ส่อเข้าข่ายวิ่งเต้น หาผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ซึ่งแม้จะชี้แจงไปแล้ว ก็ยากที่จะทำให้คนเชื่อว่าเป็นการทำงานตามกระบวนการปกติ แต่ก็นับว่า เป็นการแลกกันคนละหมัด ระหว่าง ปปช. กับ พรรคส้มที่จังหวะมันประจวบเหมาะกันพอดี

 

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 กำหนดว่า สมาชิกของทั้ง 2 สภา คือ สส.และ สว. สามารถเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของรัฐสภา เพื่อถอดถอนองค์กรอิสระ คือ
ประธาน ป.ป.ช. จากกรณี “คลิปฉาว” โดยตามขั้นตอนต้องส่งเรื่องไปยัง ประธานรัฐสภา พิจารณา ก่อนจะส่งไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อแต่งตั้ง คณะไต่สวนอิสระ ดำเนินการไต่สวนต่อไป

 

ซึ่งขั้นตอนดูเหมือนจะไม่ยาก แต่ความยากของพรรคส้ม อยู่ที่การรวมเสียง ให้ได้ 1 ใน 5 ของทั้ง 2 สภา จาก สส. 500 สว. 200 ดังนั้น ต้องใช้เสียงอย่างน้อย ประมาณ 210 คน ซึ่ง สส.พรรคประชาชน ปัจจุบันมี 143 คน ร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน หากทุกพรรคเอาด้วย พลังประชารัฐ มี 20 คน, ไทยสร้างไทย 6 คน, เป็นธรรม 1 คน, ไทยก้าวหน้า 1 คน และ เสรีรวมไทย 1 คน รวมทั้งหมด จะได้เพียง 172 คน เท่านั้น ต้องหาเสียงจากฝ่ายรัฐบาล หรือจากฝั่ง สว.มาเพิ่มให้ได้อีกอย่าง 38 คน หรือ มากกว่านั้น

 

หากพรรคฝ่ายค้านพรรคไหนไม่เอาด้วย งานยากในการรวบรวมรายชื่อก็จะยากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้น การที่ พรรคประชาชน เดินหน้า ล่ารายชื่อถอดถอนประธาน ปปช. ในครั้งนี้ จึงนับเป็น “งานที่ยากมาก” และอาจทำไม่สำเร็จตั้งต่อขั้นตอนแรก แต่ก็เป็นการท้าทายระบบ ที่น่าสนใจ เพราะพรรคส้ม พยายามทำมาโดยตลอด ในการต่อสู้กับองค์กรอิสระ ที่ให้คนเพียงไม่กี่คน มาตัดสินชี้ขาด อยู่เหนือตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศนับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ก่อนเป็น ก้าวไกล

 

ซึ่งความพยายามที่ผ่านมา ทำให้พรรคมีกระแสที่ดีในสายตาประชาชนระดับหนึ่ง แม้พรรคส้ม ทั้ง 2 จะไม่รอดเงื้อมือองค์กรอิสระก็ตาม แต่ประชาชนอีกจำนวนมาก ที่ยังคาดหวังกับการเมือง ที่พยายามท้าทายระบบของพรรคส้ม เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และการล่ารายชื่อถอดถอนประธาน ปปช.ครั้งนี้ก็อาจเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทย …

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews