จู่ๆก็มีข่าว “หนุ่มหัวร้อน”ย่านฝั่งธนฯที่ถูกเจ้าหน้าที่บุกรวบทันควัน อ้างไม่พอใจพรรคและการทำงานรัฐบาล เลยโพส ขู่ฆ่านายกเศรษฐา ผ่าน ทวิตX ที่ “นายกฯเศรษฐา”บอกให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และออกตัวว่าเราเป็นรัฐบาลต้องฟังเสียงของประชาชน มีคนไม่พอใจหรือไม่สบายใจ หรือมีคนแนะนำมาก็ต้องฟัง แต่ขอให้ติชมกันเป็นการสร้างสรรค์ดีกว่า ถ้าเป็นการคุกถามต้องว่ากันไปตามกฎหมาย และคงไม่เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัย
ซึ่งเรื่องนี้ โผล่มา ในจังหวะที่ประเด็น “เรื่องว้าวุ่น การคุกคามทางเพศของ 2 ส.ส. ฝ่ายค้านก้าวไกล”ที่เป็น “ข่าวใหญ่”ที่บานปลายขยาย ก่อนที่ จนต้องเร่งเคลียร์ใจ ปิดห้องประชุมที่ระยองวันนี้ และทำท่าว่าจะคลี่คลาย กลับไปทำหน้าที่ตรวจสอบ “รัฐบาล”ต่อได้ ในจังหวะที่ “รัฐบาลเศรษฐา”รวมถึงการพักรักษาตัวของ “คนชั้น14” เผลอแป็บเดียวผ่านมาจะครบ3เดือน 22 พ.ย. ที่มีหลายปมให้ตรวจสอบติดตามแต่เงียบไปในกระแส “ก้าวไกล”
โดยเฉพาะเรื่อง “นโยบายเรือธง” ที่เป็นไฮไลท์ ของ “นายกเศรษฐา”ว่าด้วย “โครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต1หมื่น”ที่แม้ถึงวันนี้ยังไร้ “คำตอบ”เรื่อง “แหล่งเงิน และวิธีการ หรือกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจน ที่ “นายกฯเศรษฐา”นัดไว้ว่าวันศุกร์นี้(10พ.ย.)จะเป็นคนแถลงด้วยตัวเอง หลังจากที่ผ่านมา ข้อมูลมาคนละทิศทางจากฝ่ายต่างๆ จนทำให้เกิดความสับสน เช่นเดียวกับเรื่องล่าสุด ที่ออกมากลางสัปดาห์ก่อนว่าด้วยการ “ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ”และ “การขึ้นค่าแรง”ที่ข่าวพาดหัวไปแล้วว่า “ข้าราชการมีเฮ” “แรงงานมีเฮ”แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นเรื่อง “โอล่ะพ่อ”เข้าใจผิด จากหนังสือ “ข้อสั่งการจากนายกฯ”ที่ส่งโดยสำนักงานเลขาธิการนายกฯไปยัง “รองนายกฯปานปรีย์”และผู้เกี่ยวข้อง ที่วันนี้ “นายกฯนิด”ปฏิเสธด้วยตัวเองไปแล้วว่ายังไม่มีเรื่องนี้
ในขณะที่ มีการไปพูด กลางวงประชุมพรรคเพื่อไทย ที่ “อุ๊งอิ๊ง”นั่ง “หัวโต๊ะ”ในฐานะหัวหน้าพรรคครั้งแรกวันนี้(7พ.ย.) ยืนยันว่าจะมี “ข่าวดี”ในโครงการแจกเงินดิจิทัล ในวันศุกร์ ที่ตนเองจะแถลงด้วยตัวเอง ขอให้ ส.ส.ช่วยกันไปโปรโมทกับประชาชน ว่าจะได้รับข่าวดีแน่ เช่นเดียวกับ “อุ๊งอิ๊ง”ซึ่งวันก่อนเพิ่งป๊ะหน้ากับ “ลุงตู่”ที่ศูนย์วัฒนธรรม พร้อมๆกับ “เศรษฐา”จนมีการวิเคราะห์ “ภาษากาย”จากหลายฝ่ายโดยเฉพาะ”ตู่-จตุพร”ว่า “กลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่”จับมือโอเคกันมาตั้งนานแล้ว โดย “อุ๊งอิ๊ง”วันนี้ถือโอกาสอธิบายความคืบหน้าการเดินหน้า “ยุทธศาสตร์ซอร์ฟพาวเวอร์”โดยรีบแปลความหมาย ที่ถูกทั้ง “ต้องเต”ผู้กำกับ และ “บักเชียง”พระเอก”สัปเหร่อ”ถามดังในรูปธรรมและล้อความหมาย “อำนาจนุ่มนิ่ม”ว่าแท้จริงแล้วหมายถึง “อำนาจละมุน”
เป็น “อำนาจละมุน”ที่ถูกมองล้อไปกับภาพ “รัฐบาลเศรษฐา”ว่าอย่างน้อยๆ มี “ผู้มีบารมี”ถึง 3-4″คนทั้งเปิดและปิด อยู่เบื้องหลัง ไม่แต่ “พ่อ-แม่” “ทักษิณ-คุณหญิงอ้อ”ที่ “อุ๊งอิ๊ง”บอกว่าคอยเป็น “แบ็คอัพ”หากแต่ยังมี “อำนาจเก่า”ของ “ลุงตู่”ซึ่งถาม “เศรษฐา”ว่า “เหนื่อยมั้ย”วันก่อน ยังคงอยู่ ผ่าน “สว.250″และ พรรค2ลุง ที่ “อำนาจละมุน”ดังว่าถูกมองว่าเป็นแรง “กดดันในที”กับ “เศรษฐา”ผ่านภาพ “อุ๊งอิ๊ง”และผ่าน “ขุมกำลังการเมือง”ของ “บ้านใหญ่ชินวัตร”ที่บางส่วนก็ไปปรากฏผ่านร่องรอยการบริหารบ้านเมือง ไม่แต่เรื่อง “ดิจิทัลวอเล็ต”หากแต่ยังมีปมปัญหาการทำงานของ รมต.บางกระทรวง อย่างเช่น กระทรวงเกษตร ระหว่าง “ผู้กองนัส”จากพลังประชารัฐ (พปชร.)กับ “ไชยา”รมช.จากเพื่อไทย ที่เมื่อวานเป็น1ใน2 รมต.ที่เพิ่งถูก “เรืองไกร”ไปยื่นกกต.ตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน ที่เจ้าตัวบ่นเป็นนัยว่าอาจเพราะตนทำเรื่อง “หมูเถื่อน”จริงจัง ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวอ้างว่า “นายกฯเศรษฐา”เป็นแบ็คอัพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขบวนการหมูเถื่อมีการก่อเหตุอุกอาจยิงเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบ
สำหรับ ประเด็น การ “ขู่ฆ่า”นายกฯผู้นำประเทศ อย่าลืมว่า ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดแต่เฉพาะในยุครัฐบาลพลเรือน หากแต่ยังเคยเกิดขึ้นในช่วง “รัฐบาลทหาร”ของ “ลุงตู่”ช่วงปี60 ที่ มีประเด็นคนร้ายขู่ฆ่า “2ป.”คือทั้ง “นายกฯลุงตู่ และ “ลุงป้อม”รมว.กลาโหม ที่ “ลุงป้อม”เป็นคนออกมาเปิดหัวเองว่า กำลังตกเป็นเป้าคนในโลกโซเชียล “ขู่ฆ่า” ว่า”ตนไม่รู้ว่าใครมาขู่ฆ่าตน ไปดูเอาเองในโลกโซเชียล ไม่รู้ฝ่ายไหนเหมือนกัน”ซึ่งต่อมามีรายงานจากกองทัพบกออกมาว่า ยังตรวจสอบพบคนโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียข่มขู่ลอบสังหาร “นายกฯลุงตู่” หัวหน้า คสช. ด้วยเช่นกันโดย “ลุงตู่”บอกตอนนั้นว่า”ตนไม่ได้ประมาทและท้าทายใคร เพราะคิดว่าตนทำแต่ความดี ใครไม่เห็นความดีของผม ก็ช่วยไม่ได้ ชะตาชีวิตทุกคนมีอยู่แล้ว
แต่ผมเห็นแก่ชะตากรรมประเทศมากกว่าชีวิตตน” และยอมรับว่า ข่าวขู่ลอบสังหาร “ลุงป้อม”ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องจริง กำลังหาตัวคนทำอยู่ โดยพุ่งเป้าไปที่ “พวกละเมิดสถาบันที่อยู่ในต่างประเทศ”ทั้งที่ครั้งนั้นมีรายงานว่าการขู่ “ลุงป้อม”มาจากฝั่งลาว ส่วน ของ “ลุงตู่”มาจาก ร้านอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เรื่องดังกล่าวหลังจากนั้นก็หายไป หลังถูกวิจารณ์ว่าเป็นข่าวที่มากลบการที่รัฐบาลทหารช่วงนั้นกำลังถูกตรวจสอบเกี่ยวกับปมที่เกี่ยวข้อง กับการทำรัฐประหารปี57.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
