พรรคพี่-พรรคน้อง

พรรคพี่-พรรคน้อง

 

 

@ออกตัวเลยว่ายังเป็น “นายกฯลุงตู่” ที่อยูพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่เกี่ยวกับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่เมื่อวาน (1 ส.ค.) “บิ๊กตุ๋ย” “พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” กุนซือตึกไทย มาเข้าพบที่ทำเนียบฯทำให้หลายฝ่ายคิดไกลว่ามารายงานการจะจัดประชุมพรรคตั้งผู้บริหาร ที่มี “บิ๊กตุ๋ย” จ่อนั่งหัวหน้าพรรค ร่วมกับทีม อดีตรัฐมนตรี กปปส.และ อดีตคนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรุ่งนี้ (3 ส.ค.) โดย “นายกฯลุงตู่” ออกตัว เรื่องการเมืองไม่ได้คุยอะไรกันมากนักเพราะเป็นพรรคของ “พีรพันธ์” ไม่ต้องมาปรึกษาตน และยืนยันไม่ได้ไปสั่งให้ตั้งชื่อพรรคตรงกับชื่อนโยบายของตน เพราะไม่ได้ไปเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมปัดตอบ ว่า จะย้ายพรรคมั้ย โดยบอกตอนนี้ยังอยู่ พปชร. อยู่ตอนนี้ เพราะเป็นพรรคที่เสนอชื่อตนเป็น นายกฯ

 

@เรียกว่านานๆจะเห็น การออกมาอธิบายปม พรรคสำรอง รวมไทยสร้างชาติ ของ “นายกฯลุงตู่” อันเป็นพรรคการเมืองที่ “แรมโบ้อีสาน”หนึ่งใน องครักษ์พิทักษ์นายกฯ เป็นผู้ไปจดตั้งและเคยให้ข่าวตลอดว่าเป็น “พรรคลุงตู่” ที่จ่อๆหลายครั้งจะตั้งไข่ประชุมเป็นเรื่องเป็นราว ถึงขนาดมีข่าวคนดัง รวมถึง “พีรพันธ์” จะเปิดหน้าเข้าพรรค แต่จนแล้วจนเล่าก็เลื่อนมาตลอดคู่ไปกับปัญหาเสถียรภาพรัฐบาล ตั้งแต่ “ส่วนหัว” ยัน “ส่วนหาง” ที่หลายมาเป็น ท่าทีทางการเมืองที่เกิดจากปัญหา “ความสัมพันธ์”ภายในพี่น้อง 3ป. “ศูนย์อำนาจ” ที่ผลัดกันงอนง้อระหว่าง 2 ป. พี่ใหญ่ น้องเล็ก ที่คนหนึ่งกุมสภาพฝ่ายบริหาร คนหนึ่งกุมสภาพฝ่ายเกมการเมือง ทั้งฝ่ายนิติบัญญติ และองค์กรอิสระบางส่วน ในห้วงปลายสมัยรัฐบาลที่จะครบวาระสภาฯอีก 7-8 เดือนข้างหน้าและมี “กับดักการเมือง” ให้ต้องเก็บกู้ทั้ง “ศึกซักฟอก” ที่เพิ่งผ่านไป ทั้งปม “คุณสมบัตินายกฯ 8 ปี” ของ “นายกฯลุงตู่” ที่กำลังจ่อมีใครต่อใครไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ กระทั่งมาถึงหนนี้ ที่ดูจะชัดเจนกับกำหนดการเปิดตัววันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)

 

@เป็นการเปิดตัวที่ถูกมองว่าเป็น “พรรคน้อง”เพราะมาเพื่อรองรับ “บิ๊กตู่” “น้องเล็ก” หลังมีการเปิดตัว “พรรครวมแผ่นดิน” (1 ส.ค.)ของ “อาน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา “น้องรัก” “พี่ใหญ่ป้อม” ที่แยกแขนงมาจากพรรคเศรษฐกิจไทย พรรคของ “ผู้กองนัส” “น้องเลิฟ” ของ “หัวหน้าป้อม” เช่นกัน ที่ทั้ง 2 พรรคนี้เป้าหมายเดียวกันคือ “หนุนลุงป้อม”ไม่หนุน “ลุงตู่” อย่างที่ “อาน้อย” บอกว่าไม่ได้เสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นนายกฯและมีเป้าหมายเป็น “พรรคขนาดกลาง” ไม่ใช่ “พรรคเล็ก” ในการร่วมเป็นรัฐบาล ด้วย เป้า 25 ที่นั่งส.ส.ในพื้นที่ภาคกลาง ในขณะที่ “พรรคผู้กองนัส” ที่มีประมาณ 18 ส.ส.ปัจจุบัน มุ่งไปที่ “ชำระแค้น” อย่างที่ประกาศเป็น “พรรคฝ่ายค้าน100%” ช่วงก่อน “ศึกซักฟอก” และมีการเดินเกมมาในท่องทำนองสอดรับกับการดัน “หัวหน้าป้อม” แห่ง พรรค พปชร.นั่ง “มท.1” แทน “น้องรอง” “บิ๊กป๊อก” เพื่อกุมสภาพความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

@เรียกว่าทิศทางเกมการเมืองทั้งภาพระยะใกล้และใกล้ มาในทาง 2 ป.ยังไม่ถึงขนาดไว้วางใจกัน ที่ว่ากันว่า ภาพการพลิกตลบกลับไปกลับมาของการแก้ไข “กติกาเลือกตั้ง” กับ กฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส. ว่าด้วย สูตรหาร 500 และ 100 รวมถึง กระแสกลับไปใช้ “บัตรใบเดียว” ที่ยังลุ้นอยู่ว่า ประชุมร่วมพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) จะเคาะสรุปเลยที่ “สูตร500” เพื่อให้ ทันเดตไลน์ 180 วัน (15 ส.ค.) ไม่ต้องกลับรีเซ็ตตามร่างของกกต.หรือไม่ จนเกิดความสับสนใน “พรรคร่วมรัฐบาล” ส่วนหนึ่ง ไม่แต่เฉพาะประเด็น “แลนด์สไลด์”ของฝ่ายค้านเพื่อไทย หากแต่ยังมาจากปัญหาท่าทีความไม่วางใจกันเองจาก“ศูนย์อำนาจ 3 ป.” ที่ไล่มาจากตั้งแต่ การเกิดปัญหา “ตัวแปร” ระหว่างรายทาง ใน “กับดักการเมือง” ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews