fbpx
Home
|
ข่าว

โควิดชวนเชื่อ-ปาหี่ฟอกรัฐ

โควิดชวนเชื่อ-ปาหี่ฟอกรัฐ

 

ยังอยู่ในโหมด “โควิด-การเมือง-เศรษฐกิจ” โดยมีเรื่อง “แวดวงตำรวจ” กรณี “ผกก.โจ้” มาตัดแทรก ทำให้สังคมจับตาโยงไปถึง“นายกฯลุงตู่” ในฐานะประธาน ก.ตร.ที่ครั้งเป็น หน.คสช.เคยสัญญา 7 ปีก่อนจะ ”ปฏิรูปตำรวจ” ที่เพิ่งฮือฮา ในขณะกระแส”โจ้”กำลังพีกๆ วันก่อนมีภาพการกลับมาผงาดของ ”บิ๊กโจ๊ก” ที่เคยไปฟ้องศาลปกครองเอาผิด ”นายกฯ” ที่โยกย้ายไปประจำสำนักนายกฯ โดยมีข่าวประชุม ก.ตร.วันพฤ.(26ส.ค.)มีชื่อของ”บิ๊กโจ๊ก”ขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.ที่ว่าง9ตำแหน่ง ที่เรื่องทั้งหมดกำลังถูกฝ่ายค้าน “มัดรวม” นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯลุงตู่” โดยมี 5 รัฐมนตรี เป็น “ตัวประกอบฉาก”ตั้งแต่พรุ่งนี้ (31ส.ค.) ยาวไปลงมติวันเสาร์ (4ก.ย.) แน่นอน “ประเด็นหลัก” ย่อมอยู่ที่ “ความล้มเหลว” ในการบริหารงานของ “นายกฯลุงตู่” โดยพุ่งเปมความเสียหายจาก”สงครามโควิด”ที่นอกจากจะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตคนไทย”หมื่นอัพ” เจ็บป่วย ”กว่าล้าน” ยังลามเป็น ”วิกฤติเศรษฐกิจ” ที่ยังมิอาจคาดการณ์ถึงความรุนแรงจากนี้

กระนั้นก็น่าสนใจในจังหวะที่ทำให้ผู้คนเห็นประหนึ่งว่า “โควิดขาลง”ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน ในครั้งที่ “นายกฯลุงตู่” ออกจากถ้ำเสือ WFH ครั้งแรก และ ส่งสัญญาน ว่าจะ “คลายล็อก” หลังวันที่ 31 ส.ค.ที่ถัดจากนั้นสังเกตตัวเลขการติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 2 หมื่นกว่า เหลือหมื่นกว่ามา 7-8 วัน รวมถึงวันนี้ที่เหลือ 15,972 ราย เสียชีวิตยังคงพุ่งที่ 256 รักษาหาย 17,281 ราย ถัดจากนั้น ศบค.ก็ประกาศจะคลายล็อคบางกิจการ ในพื้นที่แดงเข้มที่รวมถึง กทม.วันที่ 1ก.ย. พร้อมๆกับการ กลับมาเปิดทำเนียบฯให้ “นักข่าว”เข้าเป็นวันแรกหลังปิดมายาวเกือบ 2 เดือน ตั้งแต่ 9 ก.ค. ถึง 31 ส.ค. ที่ล้อไปกับภาพ “คลายล็อก”

น่าสนใจว่า แม้จะมี “สัญญานบวก” ที่สอดรับกับ ”จังหวะการเมือง” ที่ ”นายกฯลุงตู่” กำลังจะขึ้นเขียงพอดีดังที่ฝ่ายวิปรัฐบาลก็ให้ขยับร่น ”ศึกซักฟอก” ขึ้นมาเร็วขึ้นวันที่ 31 ส.ค.ก่อนวัน คลายล็อก 1ก.ย.แต่อาการกลัวจะ “เสียของ” หรือเป็น “การชิงสุกก่อนห่าม” อย่างที่ “หมอหน้างาน” หลายท่านส่งเสียงทักท้วงเตือนว่ายังไม่น่าไว้วางใจ เช่นเดียวกับความรู้สึกของประชาชนดังโพลสำรวจหลายสำนักที่ก็ยัง “ไม่แน่ใจ” ว่า “โควิดไทย” ดีขึ้นแล้วจริง เพียงแต่เห็นด้วยที่ “คลายล็อก” เพราะความเดือดร้อนภาคเศรษฐกิจ แบบที่ “รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาก็ทักเมื่อวันศุกร์(27ส.ค.)ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จริงๆวันนั้นน่าจะ 23,768 ไม่ใช่ 18,702 ตามที่ศบค.รายงานโดย ต้องรวม 5,066 จากการตรวจ ATK ด้วย โดยติงว่า การระบาดหนักเช่นนี้ ไม่ควรทำให้การรับรู้ความเสี่ยงของประชาชนน้อยลงกว่าที่เป็นจริงด้วยยุทธศาสตร์การสื่อสารที่ไม่เหมาะไม่ควร เพราะจะส่งผลกระทบมากมายทั้งต่อประชาชนแต่ละคน แต่ละครอบครัว ตลอดจนธุรกิจอุตสาหกรรม และต่อความมั่นคงของประเทศ

เช่นเดียวกับ นักวิชาการที่ติดตามสถานการณ์โควิดอย่าง “อ.สฤณี อาชวานันทกุล” ที่บอกว่า หากถามว่า”คิดว่าสถานการณ์โควิด-19″ วันนี้ดีขึ้นมั๊ย ตอบว่าดูเผินๆ เหมือนจะดีขึ้น แต่ยังไม่มั่นใจ โดยดูอธิบายจาก

1. แนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่กับแนวโน้มผู้ตาย ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จำนวนคนติดดูลดลงอย่างชัดเจนในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนคนตายรายวันยังอยู่ในระดับสูง 230-300 คนต่อวัน ปกติตัวเลขคนตายจะ “ตามหลัง” ตัวเลขคนติด ซึ่งควรรอดูอีก 14 วัน ว่าแนวโน้มคนติดลดลงจริงหรือไม่ ถ้าตัวเลขคนตายเริ่มลดลง แสดงว่าสถานการณ์อาจดีขึ้นจริง

2. รู้มาสักพักแล้วว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่าตัวเลขจริงมาก ทำให้ดู “แนวโน้ม” สถานการณ์จากผู้ติดเชื้อไม่ค่อยได้ สาเหตุหลักคือประเทศไทยตรวจเชิงรุกได้น้อยมาก แถมยังพบว่ายิ่งระบาดหนักยิ่งตรวจน้อยลง สวนทางกับประเทศอื่นๆ จะเห็นว่า อัตราการตรวจ PCR ลดลงเรื่อยๆ จากที่เคยสูงสุด 70,000+ ต่อวันที่ถือว่าน้อย วันนี้ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน อยู่ที่ 48,190 คนเท่านั้นเอง

3. ตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักยังสูงกว่า 5,000 คน เฉพาะผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจยังสูงกว่า 1,000 คน แนวโน้มทรงตัว แสดงว่าสถานการณ์ยังคงไม่น่าไว้วางใจ ก่อนสรุปว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่ตัวเลข ผู้ป่วยอาการหนัก, จำนวนผู้ตายรายวัน เริ่มลดลง คิดว่าเมื่อนั้นเราคงพูดอย่างมั่นใจได้มากกว่านี้ว่า “แนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้น” ทั้งนี้ยังไม่นับรวมการนำเสนอ “ตัวเลขการฉีดวัคซีน”

เรียกว่าเอาเข้าจริงสถานการณ์ “ศึกโควิด” ก็ยังใช่ว่าจะน่าไว้วางใจ แม้จะระบุตัวเลขว่า “ขาลง” ของผู้ติดเชื้อ ทำให้ถูกมองว่าด้วยจังหวะการเมืองที่ยังไม่นับรวมข่าวการ “แตะมือ” ระหว่างพรรคใหญ่รัฐบาลฝ่ายค้าน ที่จะทำให้เกิดภาพ ”ยั้งมือไว้ไมตรี” ทำให้มีการนำเสนอ “ข้อมูลบวก” ออกมาแบบ “ดูเหมือนจะดี” ในจังหวะที่ที่สัปดาห์ก่อน ก็เพิ่งมีการปรับเปลี่ยน ”ทีมสื่อสารข้อมูลภาวะวิกฤติ” รวมถึงเปลี่ยนตัว “โฆษก” ของรัฐบาลที่มาโทน “การเมือง” มากขึ้น ที่ทั้งหมดต้องจับตาในสถานการณ์จริงของ “โควิด” ที่จะออกมาหลังจากนี้ว่าจะเป็นไปอย่างที่ “นายกฯลุงตู่” ส่งสัญญานหรือไม่

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube