มือถือหาย 3 ชั่วโมง – เจ็ตสกีปริศนา! ปมใหม่เขย่าคดีแตงโม

 

สามปีผ่านไปนับจากวันที่ แตงโม นักแสดงสาวชื่อดังพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คดีที่เคยถูกสรุปว่าเป็น “อุบัติเหตุ” กำลังกลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่ที่อาจทำให้เรื่องนี้ไม่ได้จบเพียงแค่ “อุบัติเหตุธรรมดา”

 

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส. ที่เคยเป็นแกนนำค้นหาความจริงในช่วงแรกของคดี ได้เข้าให้ปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมมอบหลักฐานสำคัญ ได้แก่ กล้องวงจรปิด 34 จุด ที่ไม่เคยถูกนำมาประกอบในสำนวนเดิม โดยเฉพาะกล้องจากร้านกระแชงมอญที่บันทึกภาพได้ว่า มีเจ็ตสกี 4 ลำขับนำหน้าเรือสปีดโบ๊ทของแตงโม ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญของคดี

 

 

นอกจากนี้ ยังมีกล้องวงจรปิดจาก ใต้สะพานซังฮี ที่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครอยู่ท้ายเรือ ซึ่งขัดแย้งกับภาพจากกล้องบนสะพานที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานก่อนหน้านี้ อีกทั้งเวลาในกล้องยังคลาดเคลื่อนกัน ซึ่งเป็นจุดที่ต้องตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร

 

 

อีกหนึ่งข้อสงสัยใหญ่ที่ยังไร้คำตอบคือ แตงโมตกเรือได้อย่างไร นายมงคลกิตติ์เผยว่า จากการจำลองเหตุการณ์ล่าสุด เป็นไปไม่ได้ที่แตงโมจะได้รับบาดแผลจากใบพัดเรือ หากเธอตกลงไปจริงตามที่พยานบนเรืออ้าง

 

 

อีกหนึ่งปริศนาที่ถูกหยิบยกขึ้นมาใหม่คือ มือถือของแตงโมถูกปิดไปเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งไม่ปกติ เนื่องจากเพื่อนบนเรือยังคงใช้งานมือถือกันตามปกติ ข้อสงสัยจึงเกิดขึ้นว่า มือถือถูกปิดโดยใครและเพราะเหตุใด ซึ่งนายมงคลกิตติ์ตั้งข้อสังเกตว่าการปิดมือถือ อาจหมายถึงการพาแตงโมไปพบใครบางคน ซึ่งอาจเป็นบุคคลสำคัญที่ไม่ต้องการให้มีการบันทึกภาพหรือเสียงไว้ และนี่อาจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ต้องหาคำตอบ

 

 

โดยขณะนี้ DSI กำลังพิจารณารับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้การสืบสวนเป็นอิสระจากอิทธิพลใด ๆ ที่อาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม นายมงคลกิตติ์เผยว่า หาก DSI รับคดีนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย ถ้าคดีนี้สามารถเปิดเผยความจริงได้ ประชาชนอาจกลับมาศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น แต่ถ้าคดีนี้เงียบไป นั่นก็อาจสะท้อนให้เห็นว่า คนมีเงินและอำนาจสามารถควบคุมกระบวนการยุติธรรมได้จริง

 

 

คำถามที่ยังคงอยู่ในใจของสังคมคือ คดีนี้จะถูกพลิกกลับมาหาความจริงได้หรือไม่ หลักฐานใหม่ที่ถูกเปิดเผยจะเพียงพอให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และสุดท้ายแล้ว ความยุติธรรมจะชนะอำนาจและเงินได้หรือไม่

 

 

คำตอบของคดีนี้ อาจไม่ได้กระทบแค่ความยุติธรรมของแตงโม แต่ยังสะท้อนถึงศรัทธาของประชาชนต่อระบบยุติธรรมไทยโดยรวม คดีนี้อาจเป็นตัววัดอนาคตของกระบวนการยุติธรรมในประเทศได้เลย

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews