Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

Golden Week จีน-ญี่ปุ่น เที่ยวไทยพุ่ง

ถือเป็นข่าวดีสำหรับการท่องเที่ยวไทยที่จะกลับมาเป็นแรงหนุนให้กับเศรษฐกิจในปี 2567 ทั้งด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายต่อคน โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า Agoda แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวลำดับต้นของโลก ได้เผยข้อมูลการค้นหาของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น

 

 

ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มใกล้เข้าสู่ช่วงโกลเดนวีค (Golden Week)พบว่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้นส่งผลให้ไทยติดอันดับ 2 จุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดฮิตของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในช่วงโกลเดนวีคในปีนี้ เป็นรองเพียงประเทศเกาหลีใต้

 

สำหรับโกลเดนวีคในญี่ปุ่นในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. – 6 พ.ค.ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมีจำนวน 2.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 58% y-y และมีสัดส่วนราว 3% ของนักท่องเที่ยวรวม

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าการเข้าสู่ Golden Week ของจีนและญี่ปุ่นช่วงวันหยุดแรงงานผสานการต่ออายุมาตรการวีซ่ารัสเซีย จะหนุนเห็นนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวระยะถัดไปมองไตรมาส 4 ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน หนุนภาพคาดการณ์ทั้งปีที่ฝ่ายวิจัยมองไว้กว่า 36 ล้านคนมีโอกาสเป็นไปได้ ขณะที่รายจ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยว YTD เฉลี่ยคนละ 4.82 หมื่นบาท สูงกว่าปี 2567 ที่ 5.7% และช่วง Pre-COVID 0.5% อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ได้คุยกับ “ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร”นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย หรือ รถเช่าเหมาเพื่อสะท้อนถึงภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในเวลานี้ โดยเขากล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นอาจกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง ที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยด้วยเช่นเดียวกัน

 

ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับเพิ่มประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 และ 2568เป็น 35.5 ล้านคน และ 39.5 ล้านคน ตามลำดับ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1 ปี 2567 ในระยะข้างหน้า ประเมินว่า seat capacity และอุปสงค์การท่องเที่ยวโลกยังมีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงมีผลบวกจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Free) สำหรับ 4 ประเทศ

 

ส่วนประมาณการรายรับภาคท่องเที่ยวในปี 2567 และ 2568อยู่ที่ 1.4 และ 1.6 ล้านล้านบาทตามลำดับ โดยแนวโน้มที่ปรับดีขึ้น มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อคน อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามปัจจัยเฉพาะที่ยังอาจกดดันการฟื้นตัวของรายรับภาคท่องเที่ยว เช่น จำนวนวันพักที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube