โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
โดยทันทีที่ นายกฯ และภริยา เดินทางถึงวัดราชบพิธฯ ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้นได้ทักทายสื่อมวลชนและประชาชนที่มาทำบุญวันปีใหม่พร้อมร่วมถ่ายรูปกับประชาชน ก่อนเดินไปเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระสังฆราชฯ ภายในพระอุโบสถ
โดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราชฯ ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพรให้มีความสุข โดยท่านสอบถามเรื่องบ้านเมืองที่เป็นห่วงว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ส่วนความคาดหวังในปีงูใหญ่ หรือที่หลายคนมองว่าเป็นปีมังกรทอง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูที่ประชาชนเป็นหลัก โดยจะต้องดูแลทั้ง 3 สถาบันทั้ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะต้องดูให้ทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องเศรษฐกิจหรือปากท้องเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูในเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างอากาศบริสุทธิ์ การประกอบอาชีพ เพศสภาพ
พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็ยังเหมือนเดิมคือการแก้ไขปัญหาประชาชน ซึ่งจะต้องทำในทุกมิติ เพราะปัญหาของประชาชนมีความลึกในหลายมิติฉะนั้นต้องทำทุกอย่าง อะไรทำได้ก็ทำก่อนอย่างเช่น เรื่องการปรับโครงสร้าง ทการแก้ไขและพัฒนาในหลายเรื่องซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่เยอะและใหญ่
เมื่อถามว่า ปี 2567 จะต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอใช้คำว่าทำงานหนักเหมือนเดิมดีกว่า เพราะเท่าที่ทำมา ทุกคนก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคนที่มาจากทุกพรรคก็ทำงานอย่างเต็มที่เช่นกัน
นอกจากนี้ นายกฯ ยังบอกถึงความชัดเจนในการนอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้ฤกษ์ ให้นอนได้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.เป็นต้นไป แต่หนแรกอาจจะมีฟันหล่อบ้าง หมายความว่าบางวันอาจจะไม่ได้ก็ต้องดูกันนิดนึง และในวันที่ 7 ม.ค.ยังนอนไม่ได้ เพราะในวันที่ 8 ม.ค. มีภารกิจลงพื้นที่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ในขณะที่ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 ที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 3-5 มกราคมนี้ว่า คณะรัฐมนตรีมีการประชุมมาแล้วก่อนปีใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอร่างกฏหมาย ส่วนสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ตรวจสอบ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะต้องอธิบายชี้แจงการจัดสรรงบประมาณให้เป็นที่เข้าใจ และไม่ห่วงว่าจะเป็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเชื่อว่าสภาผู้แทนราษฎรทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองในการพิจารณางบประมาณ และหากมีข้อกังขาที่ไม่ชัดเจน รัฐบาลพร้อมชี้แจงเต็มที่ต่อสภาผ่านไปยังประชาชนทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
