fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“เศรษฐา” คงคอนเซ็ปต์ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เน้นกระตุ้นศก.

นายกฯ เศรษฐา ยังคงคอนเซ็ปต์ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย งานแน่นตั้งแต่เช้ายันค่ำ โดยย้ำเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาตลาดทุนไทย ที่รัฐบาลเห็นโอกาสเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล และการดึงดูดการลงทุนต่างชาติเพื่อเปลี่ยนเป้าหมายสู่ความยั่งยืน

 

 

 

 

 

 

แม้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการเดินสายลงพื้นที่ต่อเนื่องหลายจังหวัด และยังมีทั้งงานราษฏร์ งานหลวง รวมถึงงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง สส.และฝ่ายบริหาร เมื่อคืนที่ผ่านมา และในช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเดินทางไปร่วม

 

 

 

 

งานสัมมนาแถลงยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประจำปี 2567 ที่ โรงแรมแกรนด์ไฮเอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ที่ผ่านมาตลาดทุนไทย เผชิญกับความท้าทายสถานการณ์ความผันผวนของโลก และประเด็นความท้าทายด้านความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้น ปรับตัวลดลงอย่างมาก แต่เมื่อดูจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดทุนไทย ก็จะเห็นได้ว่า ยังมีความแข็งแกร่งในระยะยาว และมีความยืดหยุ่นสูง

 

 

 

ไม่ว่าจะเป็นจากมูลค่าหลักทรัพย์ ซึ่งติดอันดับที่ 27 ของโลก จากทั้งหมด 84 แห่ง และตลาดหุ้นไทยยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอาเซียน อีกทั้งยังมีมูลค่าเสนอขายหุ้น IPO สะสมย้อนหลัง กับสภาพคล่องที่สูงที่สุดในอาเซียน นับตั้งแต่ปี 2555

 

 

 

ซึ่งวันนี้รัฐบาลเห็นถึงโอกาสในการ “พัฒนาตลาดทุน” เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะมาถึง ทั้งด้านดิจิทัล และด้านความยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งต่อระบบตลาดทุน ระบบเศรษฐกิจโดยรวม และความเป็นอยู่ของประชาชน และจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยตลาดทุนไทย และคาดว่าจะ ส่งผลให้เกิด “นักลงทุนหน้าใหม่” ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนเพิ่มขึ้นในไทยอีกด้วย

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาล ยังมีนโยบายอีกหลายหลายด้าน ที่จะดำเนินการในภาคส่วนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งครอบคลุมทั้งการแก้ปัญหาของประชาชน การส่งเสริมภาคธุรกิจ การขยายการลงทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะมาช่วยสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาส จึงเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า หากผนวกการดำเนินการของรัฐบาล ในทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันแล้ว จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทย และตลาดทุน เติบโต และประชาชนคนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจนี้ อย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ไปกล่าวปาฐถกาพิเศษ ในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) ที่ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

 

 

 

ก่อนที่ ในช่วงเย็น เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครซึ่งทาง UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

 

 

 

 

และปิดท้ายด้วย ภารกิจในช่วงค่ำ เวลา 19.30 น. นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานในงาน Vijit Chao Phraya 2023 และล่องเรือชมบรรยากาศ ณ ท่าเรือ ICONSIAM ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเดือนสุดท้ายของปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566

 

 

 

ด้วยการนำเทคนิคสมัยใหม่มาจัดแสดงเพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของไทยบนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านวัดวาอารามและย่านสำคัญ 7 พื้นที่ที่แสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำสู่แลนด์มาร์กของประเทศไทย มีผู้สนใจทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน 252,282 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 470 ล้านบาท ผ่านการนำเสนอต้นทุนทางวัฒนธรรม Soft Power อย่างสร้างสรรค์ ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube