ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่สังคมจับตารัฐบาล ในการเดินหน้าปราบส่วยสติกเกอร์ นั่นเพราะปัญหารถบรรทุกแบกน้ำหนักเกิน ถูกเชื่อมโยงกับ “ส่วย” เพื่อให้เจ้าหน้าที่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ โดยมีสติกเกอร์รูปแบบต่างๆ แปะไว้หน้ากระจกรถ ชัดเจนสุดกับรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุซอยสุขุมวิท 64/1 ซึ่งขนดินทำถนนทรุด โดยหน้ารถบรรทุกพบสติกเกอร์รูปดาวมีตัวอักษร B สีเขียว ทำให้เกิดเป็นประเด็นที่เคลือบแคลงสงสัยต่อประชาชนว่าเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์หรือไม่อย่างไร
ล่าสุด ผบ.ตร. “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ระบุว่า สติกเกอร์ที่ปรากฎบริเวณหน้ารถ หากตรวจสอบพบว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นส่วยสติกเกอร์เรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจจริง ตนเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ยืนยันไม่เอาไว้แน่นอน
ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” ซึ่งครึ่งหนึ่งนั้น เขาได้ออกมาชำแหละส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกที่มีการจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนมูลค่านับพันล้านบาท โดย “นายอภิชาติ” กล่าวว่า วันนี้ ส่วยสติกเกอร์ยังมีอยู่ แต่ภาพรวมทั้งประเทศถือว่าลดลง อย่างน้อยประมาณ 40%
ส่วนสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว ยืนยันว่า รถดังกล่าวเป็นรถที่จ่ายส่วยเพื่อวิ่งนอกเวลาและบรรทุกน้ำหนักเกินแน่นอน ซึ่งจะต้องจ่ายให้กับหลายหน่วยงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถของตนเองสำหรับการแก้ปัญหาให้ส่วยสติกเกอร์หมดไปนั้น “นายอภิชาติ” กล่าวว่า อยู่ที่ตำรวจจะเอาจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงจัง ปัญหาก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
“ก็อยู่ที่ตำรวจจะเอาจริงไม่จริงแค่นั้นเอง ถ้าตำรวจเอาไม่จริง ก็ไม่มีทาง ผมบอกให้คุณน่ะในเมื่อประเทศไทยยังมีบ่อนอยู่ เรื่องส่วยสติกเกอร์มันก็ต้องมีอ่ะ ก็ต้องสู้กันไปเรื่อยๆ ก็ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง แล้วก็ต้องดูแลเจ้าหน้าที่ๆ อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่ารับส่วยแค่นั้นเองก็คงจะจบ”
นอกจากนี้ “นายอภิชาติ” ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจขนส่งในห้วงจังหวะที่รัฐบาล”เศรษฐา” ลดราคาน้ำมันดีเซล พร้อมตรึงไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร โดย “นายอภิชาติ” กล่าวว่า สถานการณ์ของผู้ประกอบการในขณะนี้ดีขึ้นมาก ซึ่งราคาน้ำมันที่ถูกลงนั้น ก็ทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกลดค่าขนส่งลงไป 6% แต่อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าตามท้องตลาดยอมรับว่าไม่ปรับลงเลย ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ในการที่จะดูแลราคาสินค้าให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค
และเมื่อถาม “นายอภิชาติ” ว่าส่วนตัวอยากได้ราคาน้ำมันดีเซลที่เท่าไร คำตอบที่ได้ คือลิตรละ 25 บาท แต่ยอมรับว่าก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นราคาไม่เกินลิตรละ 30 บาท ก็พอใจแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลมุ่งมั่นเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของรัฐบาลด้วยเช่นกันว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน
“ก็อยากให้รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้กับภาคประชาชนแล้วก็แก้ไขเรื่องของเศรษฐกิจให้มันฟูขึ้นมา อยู่ที่ฝีมือของรัฐบาลนะครับให้เค้าจะทำได้ขนาดไหน” จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการปราบปราบส่วยสติกเกอร์อย่างใกล้ชิด เพราะทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นรัฐบาลเศรษฐา และ หน่วยงานรัฐอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
