fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ทองพุ่ง 4 พัน ทุบสถิติ ไร้ลิมิต

“ทองคำ” ถูกยกย่องให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และในห้วงจังหวะเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ราคาทองคำในตลาดโลก ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

 

 

ส่วนราคาทองคำในประเทศก็หวือหวาไม่แพ้กัน โดยเปิดตลาดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ราคาทองคำปรับขึ้นทันที 450 บาท และในระหว่างวัน ราคาปรับขึ้นอีก 4 ครั้ง รวม 650 บาท ทองคำแท่งรับซื้อ 34,150 บาทขายออก 34,250 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 33,533.92 บาท ขายออก 34,750 บาท

 

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากนำราคาทองคำในวันดังกล่าว มาเทียบกับราคามื่อช่วงต้นปี 2 มกราคม 2566 พบว่าราคาทองคำปรับขึ้น 4,400 บาท

 

 

สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์แม่ทองสุก ถึงแนวโน้มราคาทองคำนับจากนี้ โดย “นพ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า สงครามทำให้ราคาทองคำปรับขึ้น เพราะทองคำ เป็น “Safe Haven” หรือ สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ซึ่งถ้าสงครามมีความรุนแรงอีก ราคาทองคำก็จะเหวี่ยงขึ้น

 

 

“นพ.กฤชรัตน์” กล่าวอีกว่า ตอนนี้ราคาทองคำในประเทศ ทำนิวไฮใหม่ในรอบหลายๆปี ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์สำหรับการลงทุนที่มีทองคำแท่งอยู่แล้ว ก็แนะให้ขายทำกำไรบ้าง แต่อย่าขายหมด

 

 

ขณะที่ นายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังผันผวน ต้องดูสงครามว่าจะคลี่คลายหรือรุนแรงขึ้นมาอีก สำหรับประเทศไทยมีปัจจัยของค่าเงินบาทด้วย เงินบาทตอนนี้อ่อนค่าลงมาอีกเล็กน้อยอาจทำให้ราคาในประเทศสูงขึ้นมาได้อีก โดยในช่วง 18 วันที่ผ่านมาราคาทองในต่างประเทศปรับขึ้นมาแล้ว 140 เหรียญต่อออนซ์ เมืองไทยขึ้นมา 2,200 บาท

 

 

“นายจิตติ” กล่าวอีกว่า เวลานี้ลูกค้าส่วนใหญ่ จะมีการนำทองออกขาย แต่ก็ถือว่าไม่ได้คึกคักมากนักเนื่องจากตลอดทั้งปีมีการทยอยขายมาอย่างต่อเนื่อง และทองคำแท่งที่สะสมไว้น้อยลงแล้ว เนื่องจากราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ขึ้นมาแล้วบาทละกว่า 4,000 บาททำให้มีการทยอยขายออกไปแล้ว

 

 

และทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพรวมและทิศทางราคาทองคำในห้วงจังหวะที่มีสงครามเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับ ทุกความเคลื่อนไหวย่อมส่งผลต่อราคาทองคำนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube