fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“สุทิน” จัดให้ ปิดตำนานเรือดำน้ำ แลกเป็น “ฟริเกต”

ในที่สุด รัฐบาลของ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่มี “สุทิน คลังแสง” พลเรือนคนแรกคุมกลาโหม ก็ได้ข้อสรุปมหากาพย์ “เรือดำนำจีน” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังยืดเยื้อคาราคาซังมานาน จนรัฐบาล “ลุงตู่” ผู้บุกเบิกก็ไม่สามารถหาทางลงได้ ทิ้งภาระไว้ให้ผู้มาใหม่ ต้องเร่งดำเนินการหาทางออก ก่อนถึงกำหนดจ่ายเงินงวดที่ 2 ในเดือนหน้า

 

 

 

นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยก็ว่าได้ ที่กล้าตัดสินใจบนผลประโยชน์ของชาติ และรักษาความสัมพันธ์กับจีน สามารถเปลี่ยน “เรือดำน้ำ” เป็น “เรือฟริเกต” ที่มีสมรรถนะปราบเรือดำน้ำได้แทน แม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 1 พันล้านก็ตาม
แต่ก็ไม่กระทบกับงบประมาณมากนัก เพราะสามารถโยกเงินก้อนจากการสร้างอาคารเรือดำน้ำมาโป๊ะไว้ก่อน

 

 

ส่วนโครงการเรือดำน้ำก็ให้ชะลอออกไปก่อน และสามารถดำเนินการใหม่ได้ในอนาคต เมื่อมีความพร้อม ซึ่ง พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือก็พร้อมสนองนโยบายของเจ้ากระทรวงเป็นอย่างดี

 

 

แนวความคิดจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย มีมานานมากแล้ว กระทั่งปลายปี พ.ส. 2477 ส.ส.ได้อนุมัติ พ.ร.บ.บำรุงกำลังทางเรือ พ.ศ.2478 ให้กองทัพเรือจัดหาเรือดำน้ำไทยได้ตกลงว่าจ้าง บ.มิตซูบิชิ ของญี่ปุ่น จัดสร้าง “เรือดำน้ำ” 4 ลำแรกของประเทศ มีชือว่า “มัจฉาณุ-วิรุณ-สินสมุทร-พลายชุมพล” และเข้าประจำการในปี พ.ศ. 2481 ได้ออกฝึกปฏิบัติการดำน้ำในทะเลไทยกระทั่งเข้าร่วมในสงครามอินโดจีน สร้างชื่อเป็นอย่างมาก

 

 

รวมถึงในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย กระทั่งเหตุการณ์ กบฏแมนฮัดตัน 29 มิ.ย.2494 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในกองทัพเรือกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งยุบเลิกหมวดเรือดำน้ำ แล้วโอนไปรวมในหมวดเรือตรวจฝั่งที่ตั้งขึ้นใหม่ จึงนับเป็นการสิ้นสุดของเรือดำน้ำไทย แต่ความพยามจัดหาเรือดำน้ำใหม่ ของกองทัพเรือก็มีมาอย่างต่อเนื่องมีการกำหนดความต้องการเรือดำน้ำไว้ในยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือตลอดมา ก่อนมาประสบความสำเร็จในยุคของ พล.ร.อ. ณะ อารีนิจ สมัยรัฐบาล คสช.ได้อนุมัติให้จัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560

 

 

ด้วยงบประมาณ 13,500 ล้านบาท ทำข้อตกลงจีทูจีกับจีน ประเดิมชำระงวดแรกปี วันที่ 5 พฤษภาคม 2560 จำนวน 700 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ และคัดค้านนโยบายดังกล่าวจากซีกการเมืองฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีการอภิรายอย่างดุเดือดในสภา ทั้งจาก “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” หรือแม้แต่ “สุทิน” มาโดยตลอด ส่วนงวดที่เหลือยังไม่มีการชำระเพราะติดขัดสถานการณ์ โควิด และยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

ดังนั้นการมาทำแท้งเรือดำน้ำในครั้งนี้ของ “สุทิน” จึงนับว่าเป็นการทำตามสัญญา ที่เคยพูดไว้ว่าจะยกเลิก “เรือดำน้ำ” นั่นเอง อย่างก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ต้องชื่นชมมากเป็นพิเศษ เพราะค่อนข้างละเอียดอ่อนแต่การหาทางออกโดยเปลี่ยนเป็นเรือ “ฟริเกต” ที่มีสมรรถภาพสูง ปราบเรือดำน้ำได้ และสามารถทำการบได้ทั้ง 3 มิติ ทางอากาศ ในน้ำ และผิวน้ำ สมรรถนะของกองทัพเรือไม่เสียหายมาก กับจีนก็ไม่กระทบความสัมพันธ์ ก็ยังถือว่าวินๆ กันทุกฝ่าย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube