เปิดโผ 5 คนเดือนตุลาฯ สู่ “ขุนพล” คนดังเพื่อไทย
“คนเดือนตุลา”นามเรียกขานถูกสถาปนาขึ้นหลังเหตุการณ์ทมิฬ ทั้งวันที่ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ห้วงยามนั้น พวกเขาในนามนิสิต นักศึกษาคนรุ่นใหม่ แปรเปลี่ยนเป็นนักต่อสู้ทางการเมืองรบกับอำนาจเผด็จการ นายทุน ขุนศึก ศักดินา หลายคนต้องเข้าป่าจับปืน กลืนกิน”อุดมการณ์”เป็นภักษาหาร
แต่ต่อมาพวกเขาบางคนกลายเป็นนักวิชาการ ศิลปิน เจ้าของธุรกิจ และนักการเมือง ซึ่งในปี 2566 นี้ จะพบ 5 คนเดือนตุลาที่กลายมาเป็นขุนพลค่ายเพื่อไทย
คนแรก-“บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” หรือนามจัดตั้งเมื่อครั้งเข้าป่าว่า “สหายใหญ่” แต่วันนี้เขาเป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยเมื่อปี 2517 ภูมิธรรม ยังเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬา
จากนั้น ปี 2520 ภูมิธรรมเข้าป่า อยู่ที่เขตงานอีสานใต้ เขาเริ่มเข้าสู่งานการเมืองในปี พ.ศ. 2544 และเคยเป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากนั้นอีก18ปี เขากลับมาเป็นเสนาบดีอีกครั้งในรัฐบาลเศรษฐา คนต่อมา’สหายจรัส หรือ หมอมิ้ง หรือนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ปัจจุบันหวนคืนตึกไทยคู่ฟ้าอีกครั้งในครอบ 17ปี
ในฐานะเลขาธิการนายกเศรษฐาหรือที่สื่อเรียกว่า “นายกฯ น้อย” ซึ่งอดีตในรัฐบาล “ทักษิณ” ช่วงปี2544-2549 เขาเป็นทั้งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนหล่นจากอำนาจพร้อม “ทักษิณ ” จากนั้น เขากลายเป็น ซีอีโอ ของบริษัทในเครือของทักษิณ และถือเป็น1ในมันสมองของพรรคทักษิณมาต่อเนื่อง
โดยสมัยเด็ก “หมอมิ้ง”เป็นนักเรียนสวนกุหลาบ เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มยุวชนสยาม กระทั่งเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขาได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคแนวร่วมมหิดล พรรคนักศึกษาหัวก้าวหน้า และเป็นหนึ่งในแกนนำม่วง-เหลือง ร่วมกับตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ หลังเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 การล้อมปราบในธรรมศาสตร์ หมอมิ้งเข้าร่วมการต่อสู้จับอาวุธในเขตงานอีสานใต้ มีชื่อจัดตั้งว่า “สหายจรัส”
คนต่อมา “สหายสุภาพ-จาตุรนต์ ฉายแสง “หลัง 14 ตุลา 2516 “อ๋อย” จาตุรนต์ เข้าเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปลายปี 2519 จาตุรนต์หรือ “สหายสุภาพ” เข้าประจำการที่สำนัก 61 ฐานที่มั่นภูพยัคฆ์ น่านเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยในสถานการณ์สู้รบที่ปฏิวัติ จากนั้นปี 2529ได้เป็น ส.ส.ฉะเชิงเทราสมัยแรก
จากนั้นย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาชน และพรรคความหวังใหม่ จนเลือกตั้งปี 2544 ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย จนเกิดรัฐประหารในปี 2549 เขาเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ต่อมาศึกเลือกตั้ง ปี 2562 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ แต่พรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง จากนั้นปี2564 กลับมาสังกัดค่ายเพื่อไทย ลงเลือกตั้งปี 2566 บัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 13 ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในรอบ 17ปี
คนต่อมา “เฮียตุ๊-อดิศร เพียงเกษ” ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และเป็นประธานวิปรัฐบาล เคยเป็น รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ รัฐบาลชวน หลีกภัย รัฐมนตรีช่วยคมนาคม และ รัฐมนตรีช่วยเกษตร รัฐบาลทักษิณ โดยสมัยที่ อดิศรเป็นนักศึกษา เขาร่วมชุมนุมขับไล่พระถนอม ในปี 2519 จากนั้นเข้าเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
โดยพำนักอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมีชื่อจัดตั้งว่า “สหายศรชัย” หรือ “สหายสอง” คนต่อมา ‘นพ.ทศพร เสรีรักษ์’ สส.แพร่ ค่ายเพื่อไทย อดีตโฆษกในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตเป็นนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุม เมื่อ14 ตุลาคม 2516เช่นเดียวกัน และเขาเคยได้รับหมายจับในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วมชุมนุม เมื่อปี 2563 ที่เขาได้รับฉายาว่า “คุณหมอประจำม็อบประชาชน”
อย่างไรก็ตาม ยังมีดาวดัง”คนเดือนตุลา”อีกหลายคน เช่น สหายแสง-ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ ,นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรี ,นายสุธรรม แสงประทุม นักวิชการ ,คำนูณ สิทธิสมาน สว.และอีกหลายคนที่ต่างเลือกเส้นทางของตนเองในวันที่ประเทศไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
