ที่ประชุม ก.ตร. มีมติตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 4 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 10/2566 วาระเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ต่อจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งแถวกองเกียรติยศเพื่อให้การต้อนรับในโอกาสที่เดินทางมาประชุมเป็นครั้งแรก ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย
จากนั้น นายรัฐมนตรีได้เริ่มการประชุมตั้งแต่ 14.00 น. ก่อนที่ประชุมจะมีมติในเวลา 16.28 น. ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อาวุโสลำดับสุดท้าย เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 มีรายงานว่า วาระการประชุมแต่งตั้งผบ.ตร. ในวันนี้อยู่ในวาระที่ 65 ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย แต่ได้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน เป็นวาระแรก โดยระหว่างการพิจารณาได้เชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ผู้ชิงตำแหน่งที่มาร่วมประชุมกันเพียง 2 คน ออกจากห้องประชุม เพื่อให้คณะกรรมการได้พิจารณาเรื่องคุณสมบัติก่อนลงมติ
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี และผบ.ตร.ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุสั้นๆเพียงว่าทุกอย่างโอเค ด้านด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า เรื่องสำคัญในวันนี้ คือการคัดเลือกแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่นั้น ได้รายชื่อแล้วซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการทางธุรการ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำชื่อถวายทูลเกล้าฯ ต่อไป ส่วนเรื่องในที่ประชุมไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนการพิจารณาแต่งตั้งนายตำรวจระดับนายพล ให้ขยายระยะเวลาออกไป เพื่อความเหมาะสม ซึ่งในการประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น มีการแสดงความเห็นกันตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด โดยการพิจารณาดูจากความรู้ความสามารถผลงานด้านการสืบสวนสอบสวน ป้องกันปราบปราม
สำหรับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ “บิ๊กต่อ” เกิดวันที่ 27 ม.ค.2507 จบมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนโยธินบูรณะ ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิงห์แดงรุ่น 38 อบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ บรรจุแต่งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรรุ่น 4 มีผลงานที่สำคัญ คือจัดฝึกอบรม”แอคทีฟ ชูตเตอร์”ให้ความรู้ตำรวจทั้งสายงานปราบปราม-หน่วยปฎิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการเข้าระงับเหตุ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรับมือเหตุเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเหตุกราดยิง ควบคู่กับการต่อยอดความรู้ไปยังสถานศึกษา และหน่วยงานอื่น กลายเป็นหลักสูตรที่รู้จักแพร่หลาย
นอกจากนี้ยังเป็นผู้จุดประกายนำปืน “ช็อตไฟฟ้า”ลดความสูญเสียของผู้ปฏิบัติ กระทั่งการได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขเรื่องอาวุธปืนหลวง ปัดฝุ่นระเบียบปืนสวัสดิการ นำ QR Code มาใช้ตรวจสอบและติดตามแก้ปัญหาลอบนำปืนหลวงออกไปขาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
