ครม.ลดเพิ่มไฟฟ้าเหลือ 3.99บ./หน่วย
การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ของรัฐบาลเศรษฐา 1 ยังคงให้ของขวัญประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าลงอีก จากการประชุมครั้งก่อน ที่ 4.10 บาทต่อหน่วยเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยให้มีผลทันทีในรอบบิลเดือนกันยายนนี้
โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 ของรัฐบาลเศรษฐา 1 ในวันนี้ได้มีการเริ่มต้นประชุมในเวลา 11.00 น. เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจ ในช่วงเช้า ร่วมงาน Thairath Forum 2023 เปิดใจยอมรับว่าการทำงานในช่วงที่ผ่านมาของตนเองอาจตัดสินใจเร็วเกินไปซึ่ง ภาครัฐที่มีหน่วยงานมาก อาจไม่สามารถตอบสนองได้ทันที วันนี้ขอที่จะเรียนรู้ การทำงานร่วมกัน แต่ที่ต้องทำงานเร็วก็เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ไม่อยากให้มีคำถามถึงการทำงานที่ล่าช้า แต่ก็จะพยายามปรับตัวให้มากขึ้น และหลังจากกลับมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ในวันนี้ใช้เวลาในการประชุมไม่นานนัก
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบการรายงานจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่า ได้เจรจาหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. เพิ่มเติม ในเรื่องของการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้าไปแล้วเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย หลังจากได้มีการเจรจาเพิ่มเติมสามารถปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 3.99 บาทต่อหน่วย และยืนยันว่าจะทันในรอบบิลเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน
โดยการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนั้น วิธีการและขั้นตอนต่างๆ ทาง กกพ. จะเป็นผู้เปิดเผยในรายละเอียด ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลก็คือการดูแลในเรื่องของค่าครองชีพให้กับประชาชนเท่านั้นแต่ยังคงต้องรักษากรอบวินัยทางการเงินการคลังเอาไว้
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีไฟเขียว ให้เปิดไฟท์บินจังหวัดเชียงใหม่ได้ 24 ชม. รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป หลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีตลาดใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเกาหลีขอให้มีการเพิ่มไฟท์รอบดึก เพื่อให้การเดินทางกลับประเทศถึงในช่วงเช้า
ทางผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทยได้นำเจรจาในเรื่องนี้ กระทั่งได้ผลออกมาว่า สนามบินเชียงใหม่จะเปิดดำเนินการให้มีไฟท์บินเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป เพื่อให้สอดรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และให้การออกวีซ่าฟรีเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง โดยนายกรัฐมนตรียังได้ย้ำกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เป็นไปตามตามกฎหมาย กฎระเบียบ และมติ ครม.อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 1 เดือน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดแนวทางการดำเนินงานให้เร็วและรัดกุมยิ่งขึ้น โดยมอบหมายให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
