fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

รัฐบาลรอลุง เบรกแจกกู้ศก.

จับสัญญาณการเมืองไทย หลัง “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” แถลงข่าวจับมือร่วมกันเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยจำนวนเสียงตั้งต้น 212 เสียง จากเพื่อไทย 141 เสียง และ ภูมิใจไทย 71 เสียง ซึ่งอยู่ภายใต้ 3 หลักการสำคัญ คือ ไม่แตะต้องมาตรา 112, ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยและ ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล

 

 

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ และ ส.ว. ซึ่งว่ากันว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้

 

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน มองว่า การแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ประเมินเป็นการเปิดตัวพรรคพันธมิตรที่น่าจะได้รับกระแสต่อต้านน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ที่แต่ละพรรคจะมีประเด็นอ่อนไหวต่อฐานเสียงหรือผู้ลงคะแนนของพรรคเพื่อไทยเอง

 

ทั้งนี้การเปิดตัวดังกล่าวยืนยันมุมมองเดิมที่ประเมินความน่าจะเป็นของการตั้งรัฐบาลนำโดยเพื่อไทย และส่งผลให้หุ้นในกลุ่มอิงการเมืองโดยเฉพาะที่นักลงทุนมองว่าเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยปรับตัวขึ้นโดดเด่นในระยะสั้น

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ระบุว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ก็คาดว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าออกไปมาก และมองว่าจะไม่ทันปีงบประมาณ 2567 ที่จะเริ่มใช้ในเดือน ตุลาคม และส่งผลให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนล่าช้าออกไป ยังส่งผลให้ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีหน้า 2567 มีโอกาสปรับลดลงได้

 

มีการประเมินจากฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า จะล่าช้าขึ้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์จากเดิม และเกิดภาวะสุญญากาศทางการเมืองในช่วงสั้น ทำให้ช่วงเวลาที่เร็วที่สุดที่จะได้รัฐบาลชุดใหม่ คาดอยู่ในช่วงเดือน กันยายน 2566

 

ดังนั้นเมื่อประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ เราก็จะได้เห็นการเดินหน้าเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีตัวเลขจีดีพีเป็นเดิมพัน ซึ่งการดูแลประชาชนที่ดีทาง “ดร.สมชัย จิตสุชน” ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ฝากไปยังรัฐบาลชุดใหม่ว่า จะต้องไม่ใช่การแจกเงิน แต่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องเน้นวางรากฐานระยะยาว, การเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถให้กับประชาชน

 

“อยากให้ดูเรื่องการวากฐานด้วย คือแนวโน้มคงจะไปทางว่าเอาใจประชาชน ซึ่งก็ทำได้ แต่ว่าก็ต้องดูเรื่องของการวางรากฐานระยะยาวด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะดูแลประชาชนไม่ควรจะมีแบบที่เรียกว่า เอาเงินแจกอย่างเดียว มันควรจะเน้นไปในเรื่องจะเพิ่มเรื่องของความสามารถ เรื่องของทักษะ เรื่องความรู้ ความสามารถอย่างไร อันนั้นน่าจะเป็นโจทย์ที่ ตอบโจทย์ระยะยาว ทั้งของเศรษฐกิจ ทั้งของตัวประชาชนเอง เพราะว่าถ้าได้เงินมาประเดี๋ยวประด๋าวก็หมด แต่ว่าถ้าเพิ่มทักษะให้เขา เป็นอะไรที่เขาไปใช้หากินหาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวได้ยาวนานกว่า”

 

และนี่ก็เป็นเสียงสะท้อนของนักวิชาการที่พุ่งตรงไปยังรัฐบาลใหม่ ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพราะทุกการขยับ ทุกการขับเคลื่อนของพรรคการเมือง ย่อมหมายถึงความเชื่อมั่นที่จะเชื่อมโยงต่อเศรษฐกิจไทยนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube