พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ “บิ๊กจ๋อ” ส่งชุด “หมาล่าเนื้อ” สืบสวนนครบาลพร้อมลูกศิษย์นักเรียนสืบสวนรุ่น 110 ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวนายพิเชษ หรือ “เบียร์ ดอนเมือง” อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี กระทําความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้”
โดยนายพิเชษมีพฤติการณ์ คือ คบหากับหญิงสาวรายหนึ่งโดยอยู่กินด้วยกัน ซึ่งบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านของเหยื่อเด็กหญิงอายุ 13 ปี และนายพิเชษ มักจะไปมาหาสู่พบกับเหยื่ออยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเหยื่อเป็นหลานของแฟนสาว แต่ในทุกๆครั้งที่ไปพบเหยื่อ นายพิเชษมักจะพยายามล่วงละเมิดทั้งทางกายและวาจา โดยพยายามจับต้องร่างกาย ลูบขา ลูบหน้าอก หรือบางครั้งรุกรามไปถึงการล้วงอวัยวะเพศ จนทําให้เด็กหญิงอายุ 13 ปี ทนทุกข์ทรมารเป็นอย่างมาก เพราะไม่กล้าบอกใครจนถึงขั้น “พยายามฆ่าตัวตาย” อยู่หลายครั้ง
กระทั้งญาติของเด็กหญิงอายุ 13 ปี สังเกตเห็นความผิดปกติจึงจูงมือเด็กเข้าแจ้งความดําเนินคดีในที่สุด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้ทําการออกหมายจับ นายพิเชษ และระดมกําลังเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัว แต่ทุกครั้งแม้ตํารวจจะสืบทราบแล้วว่านายพิเชษ หลบไปซ่อนอยู่ที่ใด แต่เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ก็ไม่พบและหายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ท้ายที่สุดฝ่ายสืบสวน สภ.สวนพริกไทย จึงประสานมายัง พล.ต.ต.ธีรเดช หรือผู้การฯจ๋อ ให้ช่วยติดตามคนร้ายพร้อมกับเบาะแสเดียวที่มีคือ “นานๆจะกลับมาหาแฟนสักครั้ง” หลังจากรับเรื่อง พล.ต.ต.ธีรเดช จึงส่งชุดสืบนครบาลพร้อมนักเรียนสืบสวนรุ่น 110 ลงพื้นที่เฝ้าแฝงตัวในชุมชน เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ จนกระทั่งรับแจ้งเบาะแสว่านายพิเชษ กลับมาหาแฟนสาว จึงนํากําลังปิดล้อมบ้านพัก ซึ่งคนในบ้านไม่ให้ความร่วมมือและพยายามปิดไฟทําเหมือนไม่มีคนอยู่ ทําให้ชุดสืบสวนใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง จนกระทั่งแฟนสาวของนายพิเชษ ยอมเปิดประตูให้เข้าไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบตัวของนายพิเชษที่มักจะหายตัวไปเหมือนทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่รอดสัญชาติญาณ “หมาล่าเนื้อ” ของชุดสืบสวนนคร
ที่ขอทําการตรวจสอบบนฝ้าของบ้านพัก จนสุดท้ายพบตัวนายพิเชษ นอนคดตัวหลบซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเกลี้ยมกล่อมและสามารถจับกุมตัวนายพิเชษได้ในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายพิเชษ พบมีคดีติดตัวและมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กหญิงอีกหลายคน และเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีลักษณะของอาการ “ใคร่เด็ก” และยิ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กหญิงรายใด ต้องถือว่าเด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นการที่ชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ถือว่าสามารถช่วยเหลือเหยื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
