นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี 10 นาย มาร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด เพื่อให้ร่วมการสอบสวนตามพ.ร.บ.อุ้มหาย ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการจับผู้ต้องหาเว็บไซต์พนันออนไลน์ไปเรียกเงินกว่า 140 ล้านบาท พร้อมหอบหลักฐานเปิดโปงผู้ร่วมขบวนการรีดเงิน และการสร้างหลักฐานเท็จ
นายอัจฉริยะ เผยว่า ตำรวจที่มีรายชื่ออยู่ในชุดจับกุมหลายคนไม่ได้กระทำความผิดแต่กลับถูกเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาที่สโมสรตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานชุดสืบสวนของบิ๊กโจ๊ก โดยที่ผ่านมาพบว่าชุดทำงานบิ๊กโจ๊ก สร้างพยานหลักฐานเท็จ และสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งมีลูกน้องของบิ๊กโจ๊กเกี่ยวข้องกับการอุ้มตัวนายเป้ ผู้ต้องหาเว็บพนันไปอุ้มรีดเงินด้วย
แท้จริงแล้วกระบวนการนี้มันมีกระบวนการที่สร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ มีการอุ้มพยาน มีการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย สืบสวนสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีตำรวจชุดของบิ๊กโจ๊กซึ่งวันนี้จะเปิดหลักฐานเด็ด ให้ดูมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มรีดเงิน 140 ล้านด้วยไม่ทราบว่ามีโจ๊กที่รับปากผมไว้ว่าหากผมมีหลักฐานว่าชุดบิ๊กโจ๊กเกี่ยวข้องกับกระบวนการรีดเงินและ 40 ล้านบาทเนี่ยจะลงโทษ 2 เท่าและให้ออกจากราชการทันทีอย่าลืมคำพูดที่พูดเอาไว้กับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนะครับ
ซึ่งหลักฐานที่นายอัจฉริยะนำมาเปิดเผยได้แก่ภาพถ่ายที่ระบุว่า เป็นภาพของรองผู้บังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่กำลังนั่งสอบปากคำนายบอยที่พบว่าเป็นคนมาเจรจาเรื่องเงิน 140 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊กและคลิปเสียงของผู้กำกับสภ.เมืองพัทยา ที่ได้โทรศัพท์มาเรียกให้ผบ.หมู่ปราบปรามสภ.เมืองพัทยา ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในชุดจับกุม ที่เข้าไปช่วยค้นที่คอนโดมิเนียมของเครือข่าย มาพบที่สโมสรตำรวจ แต่ปฏิเสธไม่เข้าพบเนื่องจากต้องการทนายความเข้าไปด้วย ทำให้ผู้กำกับสภ.เมืองพัทยา ถูกสั่งย้ายให้มาช่วยราชการที่สโมสรตำรวจ
ซึ่งคดีนี้ได้สั่งการให้ตำรวจตำแหน่งรองสารวัตรจราจร และรองผู้กำกับการปราบปราม ของสภ.พัทยา ให้ร่วมนำตำรวจในชุดจับกุมมาแจ้งข้อกล่าวหา และทำเอกสารรายงานการสืบสวนไปขอศาลออกหมายจับ รวมทั้งปลอมลายเซน และบังคับให้พนักงานสอบสวนบางนาย ลงชื่อในบันทึกจับกุม ซึ่งหากทำสำเร็จจะให้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น
นอกจากนั้นยังมีเอกสารการสืบสวนคดีของนายเป้ ที่พบว่าเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์หลายเว็บไซต์ โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 10,841 ล้านบาทต่อเดือน จากนั้นจะส่งเงินเป็นระบบคริปโตฯ ไปยังไปประเทศสิงคโปร์ แต่หลังจากที่นายเป้ถูกจับแล้ว กลับพบว่ามีความพยายามทำให้นายเป้ พ้นผิด
นายอัจฉริยะ ยังระบุว่า หลังจากนี้หากบิ๊กโจ๊กยังไม่ให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมกระทำความผิด ก็จะไปร้องให้กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ดำเนินคดีกับชุดจับกุม และแจ้งกล่าวหาโดยมิชอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
