fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

5 เสือเก่าคืนสภา รอคอย 17 ปี เป็นส.ส.อีกครั้ง

จากผลการเลือกตั้ง 66 เราได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ชุดที่ 26 ของประเทศ ที่มาพร้อมกับสถิติใหม่ ส.ส.ป้ายแดงสมัยแรกถึง 237 คน เกือบครึ่งหนึ่งของสภา เลยทีเดียว

 

 

และที่น่าสนใจกว่านั้น มี ส.ส.”บิ๊กเนม” อดีตบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย ที่หายหน้าไปจากสภา นานกว่า 17 ปี นับตั้งแต่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง หลังไทยรักไทยถูกยุบไปเมื่อปี 2550 ได้กลับเข้าสภาอีกครั้งด้วยเช่นกัน และอาจเป็นล็อตสุดท้ายของสมาชิกบ้าน 111 แล้ว ที่มีโอกาสได้รีเทิร์นสู่สภาอันทรงเกียรติ เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมชะตากรรม ได้ทยอยกลับมาหลายคนแล้ว

 

ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน แต่แตกต่างสถานะกันไป ไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน ขั้วเดียวกันเหมือนในอดีต เช่น “อนุทิน ชาญวีรกุล-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ-สรอรรถ กลิ่มปทุม” ในนามพรรคภูมิใจไทย “วันมูหมัดนอร์ มะทา” กับประชาชาติ “อนุชา นาคาศัย-สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สุชาติ ตันเจริญ” ที่ได้กลับสภากับพลังประชารัฐ ย้ายกลับเพื่อไทยในครั้งนี้ ยกเว้น “อนุชา” ที่ไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ

 

แต่ก็มีอีกหลายคน โดยเฉพาะที่อยู่กับ เพื่อไทย อาทิ ที่ได้รีเทิร์น เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ครั้งนี้ต้องสอบตก หายหน้าไปอีก โดยบรรดาเสือเฒ่า ที่ต้องใช้เวลานานถึง 17 ปีกว่าๆ จึงได้กลับสภาอีกครั้ง มีถึง 5 คน แต่ละคนล้วนมีเส้นทางที่แตกต่างกันไป

 

เสือเก่ารายแรกที่ได้คืนสภาคือ “จาตุรนต์ ฉายแสง” อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หลายสมัย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง วัย 67 ปี โลดแล่นทางการเมืองมาอย่างยาวนาน เป็น ส.ส.สมัยแรก ปี 2529 กับพรรคประชาธิปัตย์ และย้ายสังกัดเรื่อยมาทั้ง พรรคประชาชน,พรรคชาติไทย พรรคความหวังใหม่ และพรรคไทยรักไทย ซึ่ง “จาตุรนต์” คือแม่ทัพคนสุดท้าย ที่นำพรรคสู้คดีในชั้นศาล ก่อนถูกตัดสิทธิ์ 5 ปี และเมื่อพ้นโทษแบน ก็กลับมาช่วยงานที่เพื่อไทยก่อน

 

และเมื่อปี 2562 ลงเลือกตั้งในนามไทยรักษาชาติ แต่พรรคก็ถูกยุบอีก ก่อนจะกลับมาเพื่อไทย และได้เข้าสภา ในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อในครั้งนี้ คนต่อมาต้องเรียกว่า”นางสิงห์” เป็นเจ้าแม่ กทม.”สุดารัตน์ เกยุราพันธ์” เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองในการต่อสู้ยุค”พฤษภาทมิฬ” และลงสมัคร ส.ส. และได้รับเลือกครั้งแรกปี 2535 กับพรรคพลังธรรม

 

ก่อนย้ายไปไทยรักไทย ในยุคของ”ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรค และรับตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง จนถูกถูกตัดสิทธิ์ และเมื่อกลับมาอีกครั้งก็นั่งประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย เมื่อปี 4 ก่อน และเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ไม่ได้เข้าสภา และขัดแย้งกับผู้บริหารจนต้องแยกตัวมาเป็นไทยสร้างไทย และได้กลับเข้าสภาในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงคนเดียวของพรรค ส่วนคนที่ 3 “อดิศร เพียงเกษ” เจ้าของฉายาหมอแคนขอนแก่น อายุ 70 ปี เป็นนักสู้ประชาธิปไตยเดือนตุลา เคยต้องหนีเข้าป่ามาก่อน เป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัยกับหลายพรรค อาทิ “มวลชน, พลังธรรม,นำไทย และไทยรักไทย”

 

แถมเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยมาแล้ว 2 สมัยด้วย โดยหลังพ้นโดทษก็มาสังกัดเพื่อไทยโดยตลอด 4 ปีก่อนลงบัญชีรายชื่อ แต่เพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย ก่อนมาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ คนที่ 4 “สุธรรม แสงประทุม” เป็นอีกหนึ่งคนเดือนตุลา วัย 69 ปี เข้าสู่การเมืองเป็น ส.ส.สมัยแรก ที่ จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิด เมื่อปี 2351 ในนามพรรคก้าวหน้า หลังจากนั้น ย้ายมาเป็น ส.ส.กรุงเทพฯ กับพลังธรรม และย้ายไทยรักไทย เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย เป็นรัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ

 

และช่วยมหาดไทย 4 ปีก่อนร่วมเส้นทางเดียวกับ “จาตุรนต์” ก่อนกลับเพื่อไทย ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ และคนสุดท้าย “นพ.ทศพร เสรีรักษ์” คุณหมอนักประชาธิปไตย เริ่มเข้าสู่การเมือง สมัคร ส.ส.แพร่ กับพรรคชาติไทย ในปี 2539 จากนั้นจึงย้ายเป็นสมาชิกไทยรักไทย เป็น ส.ส.ต่อเนื่องจนถูกตัดสิทธ์ เมื่อพ้นโททษแบนก็มาช่วยงานเพื่อไทย

 

ได้รับแต่งตั้ง เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนเลือกตั้ง 62 โยกไปอยู่ไทยรักษาชาติ และถูกยุบ จึงกลับมาเพื่อไทย โดยมีบทบาทสำคัญดูแลช่วยเหลือผู้ชุมนุมทางการเมือง และได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เข้าสภาอีกครั้งหลังห่างหายไปนาน ..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube