fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

4 ตัวตึง ส.ว.สายโหด โหมดลุ้นระทึก “นายกฯพิธา”

รัฐบาลส้มแดงแรงฤิทธิ์กำลังเดินไปสู่เป้าหมายเหลือแค่ 63 เสียง ท่ามกลางด่านโหดหินสำคัญอย่างการเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา 250 คน

 

 

ที่รู้กันดีว่าต้นธารมาจากที่ไหน ใครเป็นคนแต่งตั้ง ซึ่งอนุมานว่าเป็นคนจากสาย 2ลุง ปาไปเกือบ200รายแล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ เหล่าบรรดา ส.ว.สายโหด ตัวตึง สภาสูง บางรายฉายโชว์ดุเดือด ควักมือเรียกรถทัวร์มาจอดหน้าบ้านกันแน่นเต็มพื้นที่ ทำให้บางรายถึงกลับต้องลดโทนอารมณ์กราดเกรี้ยวลงเลยทีเดียว

โดย4 ส.ว.สายโหด คนแรก “นายวันชัย สอนศิริ” ที่ตอนแรก ดุดันไม่เกรงใจใคร แต่เมื่อทัวร์ลงหนักๆก็อ่อนลงบ้าง เขาระบุยืนยันว่า “หากนายพิธา สามารถรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็พร้อมที่จะยกมือสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าตนเองนั้นคัดค้าน ซึ่งไม่ใช่แม้แต่นายพิธาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร หากรวบรวมเสียงข้างมากได้ ก็สนับสนุนทุกคน ไม่ได้จะไปขัดขวางแต่อย่างใด”

สำหรับนาย วันชัย อายุ69 ปี จบปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาชีพเดิมเคยเป็นทนาย สมาชิกสภาเขต กทม., พิธีกร, ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และหลังการรัฐประหารปี 2557 เขาเข้าสู่วงอำนาจในตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ก่อนมีพระบรมราชโองการเมื่อ 14 พฤษภาคม 2562 แต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา

คนต่อมาคือ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่เคยให้ความเห็นประเด็น ‘โหวตนายก’ ที่เขารับไม่ได้สำหรับ “พิธา”เพราะมีพฤติกรรมนำมวลชนไปปิดล้อมสภาฯ ที่มีการประชุมร่วมอยู่ ถนัดใช้กำลังมากกว่าสมอง ตนรับไม่ได้ และเรื่องสถาบันด้วย เช่น นโยบายมาตรา 112 การปฏิรูปทหาร ยกเลิกผู้ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยร้อนเป็นไฟ หากคุณพิธา เป็นนายกฯ และจะทำให้เกิดความขัดแย้งนำไปสู่สงครามทางการเมืองได้

 

นอกจากนี้ยังมีการปะทะคารมตอบโต้ดุเดือดกับ “แด๊ดดี้ศิธา-น.ต.ศิธา ทิวารี”จนโดนศิธาตอกกลับแบบสมน้ำสมเนื้อ โดย ส.ว.กิตติศักดิ์ อายุ 67 ปี เป็นชาว จ.พิจิตร เคยเป็นแกนนำชาวนา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ส.ว. เลือกโดยคณะ คสช. และควบตำแหน่งอื่นๆ เช่น รองประธานคณะกรรมาธิการ การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาศ และกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน

 

สว.คนต่อมาคือนายจเด็จ อินสว่าง 76ปี เคยระบุว่า “สำหรับผม ก็คือไม่เห็นชอบ ซึ่งแม้เขาจะรวมเสียงส.ส.มาได้เท่าไหร่ก็ตาม จะเป็น 309 เสียงของสภาฯ อย่างที่แถลงไว้หรือจะไปถึง 376 เสียงก็แล้วแต่ ที่หากได้ถึง 376 ก็ไม่ต้องมาพึ่งสว. แต่หากได้มาสัก 309 เสียง ก็ยังต้องถามสว. ซึ่งส่วนตัวผม ถ้าเสนอชื่อมาเป็นนายพิธา ผมไม่รับ จะลงมติไม่เห็นชอบเพราะผมจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและคำปฏิญาณ ”

 

สว.คนต่อมาคือ นายเสรี สุวรรณภานนท์ อายุ72ปี เจ้าของวลีเด็ด “ผมนิยมเผด็จการประชาธิปไตย ไม่ได้นิยมพวกประชาธิปไตยจอมปลอม” ในประเด็นแหลมคมโหวตนายกนั้น เขาระบุว่า หากก้าวไกลและพิธา ยืนยันว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว “เพราะมันสร้างความร้าวฉานให้คนในชาติ ก็ต้องดูเขาอีกที ว่าหลังจากที่ได้รับการเสนอชื่อ จะมีเรื่องเหล่านี้อยู่หรือไม่”

 

อย่างไรก็ตาม ย้อนไปฟังคำพูด”พิธา”ในสภาประเด็นเรียกร้องให้ปิดสวิทช์สว.ในการเลือกนายกฯ ว่า “ผมขออวยพรผ่านไปยังผู้มีอำนาจทุกท่าน ที่คิดว่าจะสามารถเหนี่ยวรั้งเข็มนาฬิกาเอาไว้ได้ ผมขออวยพรให้ท่านมีอายุยืนเพียงพอ ที่จะเห็นความพยายามของท่านล่มสลายไม่มีชิ้นดี เห็นความต้องการของท่านถูกบดขยี้ด้วยกงล้อของเวลา ที่เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และได้มีโอกาสรับรู้กับตาและหูของท่านเองว่าผู้คนและยุคสมัยจะตราหน้าท่านว่าอย่างไรในประวัติศาสตร์ของเรา”

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube