การเมืองสวนทางโควิดวิกฤตซ้อน(click ดูวีดีโอ)
เมื่อ วัคซีนโควิด มาถึง และมีการฉีดเข็มแรกในประเทศ แม้ไม่ใช่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นคนเขียนหน้าประวัติศาสตร์นั้น แต่หลายฝ่ายเริ่มมีความหวัง ว่าสภาพความเป็นปกติ ชีวิตวิถีเก่าที่คุ้นเคย จะกลับมา ความซบเซาจากการแพร่ระบาด ตั้งแต่ มี.ค.ปีก่อน น่าจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว จะต้องดีขึ้นในเร็ววัน นั่นคือสิ่งที่ภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชนคนทั่วไปคาดหวัง แต่ในทางกลับกันเมื่อโควิด 19 เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อย่างชัดเจน ปัญหาการเมือง ปัญหาเดิมๆ ที่คนไทยพบเจอมาตลอดในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา กลับส่อเค้าจะรุนแรงมากขึ้น และอาจกลับมาซ้ำเติมเพิ่มวิกฤตอีกครั้ง แม้จะเป็นสิ่งที่พบเห็นมาตลอด แต่ก็เชื่อว่าไม่ใครอยากเห็นการปะทะกัน และการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ กับผู้ชุมนุม 28 ก.พ.นั้น ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงขับไล่รัฐบาลเผด็จการ เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาอย่างต่อเนื่องในวงรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เพราะมีการใช้กระสุนยาง ยิงใส่ม็อบ ที่มีการใช้ความรุนแรงปาก้อนหิน และทำลายทรัพย์สิน จนมีผู้บาดเจ็บไปทั้ง 2 ฝ่าย
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลโดยยึดโมเดลแฟลชม็อบ แบบฮ่องกง เริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปีก่อน แต่ก็ต้องพับแผนซาลงไไป เพราะโควิด
19 ระบาดรอบแรก แต่เมื่อการควบคุมโรคเริ่มเป็นผล ประชาชนรู้จักป้องกันตัวเอง และสถานการณ์ระลอกแรกเริ่มคลี่คลาย เคือนก.ค. ม็อบใหญ่
ของเยาวชนปลดแอก,ประชาชนปลดแอก,แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จนกลายเป็น “คณะราษฏร” ก็รุกไล่รัฐบาลจนถึงทำเนียบ ปิดล้อมสภาเพื่อกดดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระทั่งลุกลามบานปลายไปถึงข้างบน ต่อเนื่องกันอยู่ 5 เดือน แต่สถานการณ์ก็ซาลงอีกครั้ง เมื่อโควิด ระลอกใหม่มาเยือนและเมื่อโควิด19 เริ่มดีขึ้น วันเดียวกับที่มีการฉีดวัคซีน ปัญหาการชุมนุมทางการเมือง ก็กลับมารุนแรงอีกครั้ง ตามภาพที่เห็น ดังนั้น หลังจากนี้คงต้องลุ้นกันว่า สภาพความเป็นปกติของประเทศไทย ที่ทุกคนอยากเห็น เศรษฐกิจดี นักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างมากมาย จะกลับมาได้หรือไม่ หรือ เมื่อโควิด19 เบาลง เพราะมีวัคซีนแล้ว แต่ปัญหาเดิมๆ คือการเมือง จะกลับมาทวีความรุนแรง และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเหมือนในอดีตที่มีการชัตดาวน์กันอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
